แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในกรณีที่โจทก์และจำเลยอ้างเอกสารเป็นพยานร่วมกันและความในเอกสารนั้นแสดงไปในทางที่ว่าจำเลยเป็นฝ่ายออกเงินสร้างเรือนคือสมข้างข้อต่อสู้ของจำเลยก็ตามแต่เมื่อโจทก์อ้างว่าโจทก์ก็มีส่วนออกทุนสร้างเรือนด้วยและโจทก์จะขอนำสืบว่าโจทก์เป็นฝ่ายออกเงินสร้างเรือนด้วยนั้นโจทก์จะนำสืบได้หรือไม่นั้นย่อมอยู่ที่ว่า เอกสารดังกล่าวนั้นโจทก์ได้รับรองความถูกต้องแท้จริงหรือไม่ถ้าเป็นแต่เพียงโจทก์อ้างเอกสารร่วมกับจำเลยจะให้หมายความว่าโจทก์รับรองความถูกต้องแท้จริงไปในตัวยังหาชอบไม่เมื่อไม่ได้ความว่าโจทก์รับรองความถูกต้องแท้จริงของเอกสารโจทก์จึงมีสิทธินำพยานบุคคลเข้าสืบหักล้างได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเรือนหลังหนึ่งเป็นของโจทก์ให้จำเลยทั้งสองอาศัย ต่อมาจำเลยทั้งสองเถียงกรรมสิทธิ์ โจทก์จึงฟ้องขอให้แสดงว่าเรือนเป็นของโจทก์ให้ขับไล่จำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองให้การว่าเรือนเป็นของจำเลยจำเลยใช้เงินของจำเลยสร้างเรือนและนางเหลือมารดาช่วยออกเงินด้วยส่วนหนึ่งครั้นเมื่อนางเหลือจะตายนางเหลือยกเรือนให้จำเลย ๆ ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของตั้งแต่ พ.ศ.2485
ศาลชั้นต้นสืบตัวโจทก์ปากเดียวแล้วสอบโจทก์ถึงพยานที่จะสืบต่อไปโจทก์แถลงว่ามีพยานนำสืบต่อไปว่าโจทก์และนางชลอเป็นผู้ออกทุนสร้างเรือน นายเอี่ยมจำเลยเป็นผู้จัดการสร้าง ในวันเดียวกันนั้นฝ่ายจำเลยแถลงว่าเอกสารหมาย จ.ล.1, 2, 3 ที่โจทก์จำเลยอ้างร่วมกันนั้นคำพยานบุคคลไม่สามารถลบล้างขอให้งดสืบพยานโจทก์ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ พิพากษาให้โจทก์แพ้คดีโดยยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ว่าเอกสารเหล่านั้นโจทก์ไม่ได้รับรองความถูกต้องแท้จริง ดังนั้นจะยกเอาข้อความตามเอกสารมายันโจทก์ไม่ให้สืบพยานบุคคลหักล้างเอกสารหาได้ไม่ พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้สืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาคดีแล้วได้ความว่าเอกสาร 3 ฉบับที่กล่าวข้างต้นโจทก์จำเลยอ้างร่วมกันความในเอกสารนั้นแสดงไปในทางที่ว่าจำเลยเป็นฝ่ายออกเงินสร้างเรือน คือสมข้างข้อต่อสู้ของจำเลยแต่โจทก์จะขอนำสืบว่าโจทก์เป็นฝ่ายออกเงินสร้างเรือน ดังนี้โจทก์จะนำสืบได้หรือไม่
ปรากฏว่าเอกสารสามฉบับนั้นโจทก์ไม่ได้รับความถูกต้องแท้จริงการที่โจทก์อ้างร่วมจะให้หมายความว่าโจทก์รับรองความถูกต้องแท้จริงไปในตัวหาชอบไม่ เมื่อวินิจฉัยดังนี้แล้ว ก็เป็นอันว่า โจทก์ยังจะนำสืบพยานบุคคลหักล้างข้อความในเอกสารนั้นได้อยู่จึงพิพากษายืน