แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มิได้กำหนดให้อำเภอมีฐานะเป็นนิติบุคคลอย่างเช่นจังหวัด แม้จะมีพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พุทธศักราช 2457 มาตรา 122 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 62 วรรคสามและระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูแลรักษาที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. 2515 ข้อ 4(1) และ ข้อ 5(1) กำหนดให้นายอำเภอหรือกรมการอำเภอมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินอันเป็นสาธารณประโยชน์ก็ไม่เกี่ยวกับผู้ร้องสอด ซึ่งเป็นส่วนราชการ (อำเภอ) และไม่มีกฎหมายใดกำหนดให้ผู้ร้องสอดมีฐานะเป็นนิติบุคคล ผู้ร้องสอดจึงไม่มีอำนาจร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ได้ ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาก็เห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ประกอบมาตรา 246 และ 247 คดีไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาตามที่ผู้ร้องสอดฎีกาขึ้นมาอีกต่อไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินโฉนดเลขที่ 5451 ของโจทก์บางส่วนเนื้อที่ 40 ตารางวา เพื่อปลูกบ้านอยู่อาศัยมีกำหนดเวลา 1 ปี เมื่อครบกำหนดตามสัญญาเช่าโจทก์ได้มีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกไป แต่จำเลยเพิกเฉยขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารและรื้อถอนบ้านของจำเลยออกจากที่ดินของโจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 5,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกไปจากที่ดินของโจทก์
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ระหว่างพิจารณา ผู้ร้องสอดยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องสอดมีอำนาจหน้าที่ในการดูแลที่ดินอันเป็นสาธารณประโยชน์ซึ่งตั้งอยู่ติดกับเขตที่ดินของโจทก์ ในการรังวัดที่ดินเพื่อทำแผนที่พิพาทคดีนี้ โจทก์น่าจะนำชี้แนวเขตที่ดินรุกล้ำเข้ามาในเขตที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ผู้ร้องสอดดูแลอยู่ ผู้ร้องสอดจึงจำต้องยื่นคำร้องสอดเพื่อเป็นการคุ้มครองและป้องกันมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดเอาที่ดินสาธารณประโยชน์ไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตนขอให้มีคำสั่งให้ดำเนินการทำแผนที่พิพาทในคดีนี้ใหม่โดยการปูโฉนดที่ดินของโจทก์และที่ดินข้างเคียงเพื่อให้ทราบแนวเขตที่ดินที่แน่นอน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คำร้องของผู้ร้องสอดไม่มีเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1) ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องสอดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
ผู้ร้องสอดฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ. 2534 มิได้กำหนดให้อำเภอมีฐานะเป็นนิติบุคคลอย่างเช่นจังหวัด แม้จะมีพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พุทธศักราช 2457 มาตรา 122 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 62 วรรคสามและระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแลรักษาที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. 2515 ข้อ 4(1) และ ข้อ 5(1) กำหนดให้นายอำเภอหรือกรมการอำเภอมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินอันเป็นสาธารณประโยชน์ ก็ไม่เกี่ยวกับผู้ร้องสอดซึ่งเป็นส่วนราชการ และไม่มีกฎหมายใดกำหนดให้ผู้ร้องสอดมีฐานะเป็นนิติบุคคลผู้ร้องสอดจึงไม่มีอำนาจร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ได้ ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาก็เห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ประกอบมาตรา 246 และ 247 คดีไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาตามที่ผู้ร้องสอดฎีกาขึ้นมาอีกต่อไป
พิพากษายืน