คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีจะต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 570 ก็เฉพาะแต่ผู้ให้เช่านิ่งเฉยมิได้ทักท้วง ยอมให้ผู้เช่าอยู่ในห้องเช่าต่อไป การที่ผู้ให้เช่าบอกเลิกการเช่าแล้วแต่ยังคงรับเงินค่าเช่าจากผู้เช่าภายหลังจากสัญญาเช่าสิ้นอายุ ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ถือว่าคู่สัญญาทำสัญญาใหม่ต่อไปไม่มีกำหนดเวลา การที่จำเลยชำระเงินค่าเช่าให้โจทก์ถึงหากเจตนาจำเลยประสงค์จะเช่าห้องพิพาทอยู่ต่อไปก็เป็นแต่เจตนาของจำเลยแสดงออกแต่ฝ่ายเดียว หามีผลเกิดเป็นสัญญาเช่าไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าตึกแถวของโจทก์มีกำหนด ๑ ปี นับแต่วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๐๗ ครบกำหนด จำเลยไม่ส่งมอบคืนโจทก์ได้บอกเลิกสัญญา ขอให้ศาลบังคับจำเลยและบริวารออกไป และให้ใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ตกลงให้จำเลยเช่า ๓ ปีเรียกเงินประกันความเสียหายจากจำเลยเป็นเงิน ๖,๐๐๐ บาท โจทก์จะคืนให้หากอยู่ไม่ครบ ๓ ปีเมื่อจำเลยเช่าตึกพิพาทมาครบ ๑ ปี โจทก์เรียกเก็บค่าเช่าต่อมาจนถึงวันฟ้อง ถือว่าโจทก์จำเลยตกลงต่ออายุสัญญาเช่าต่อไปอีกไม่มีกำหนดเวลา หากศาลขับไล่จำเลย ก็ให้โจทก์คืนเงิน ๖,๐๐๐ บาท
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า แม้โจทก์ได้รับค่าเช่าจากจำเลยภายหลังที่โจทก์บอกเลิกสัญญาเช่า ไม่ถือว่าเป็นการต่ออายุสัญญาเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา ฯลฯ
วันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นสั่งยกฟ้องแย้ง เพราะเป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไข
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวาร ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายก่อนฟ้อง ๑๙๐ บาท นับแต่วันฟ้องวันละ ๑๐ บาท จนกว่าจำเลยจะออกจากตึกที่เช่า
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ โจทก์ผู้ให้เช่ารู้ความที่จำเลยผู้เช่ายังครองทรัพย์สินที่เช่าอยู่ จึงได้ทักท้วงโดยวิธีมีหนังสือบอกกล่าวเลิกการเช่าไปยังจำเลยผู้เช่า ให้ออกไปเสียจากห้องเช่าแล้วดังนั้น จึงนำมาตรา ๕๗๐ ขึ้นมาปรับแก่คดีนี้ไม่ได้ กรณีจะต้องด้วยมาตรา ๕๗๐ ก็เฉพาะแต่ผู้ให้เช่านิ่งเฉยมิได้ทักท้วง ยอมให้ผู้เช่าอยู่ในห้องเช่าต่อไปการที่ผู้ให้เช่ายังคงรับเงินค่าเช่าจากผู้เช่าภายหลังจากสัญญาเช่าสิ้นอายุแล้ว ไม่มีกฎหมายบทใดบัญญัติให้ถือว่าคู่สัญญาเป็นอันได้ทำสัญญาใหม่ต่อไปไม่มีกำหนดเวลาโดยเฉพาะคดีนี้โจทก์นำสืบก็ได้ความชัดเจนว่า ที่โจทก์รับเงินค่าเช่าจากจำเลยนั้นเพื่อบรรเทาความเสียหายในกรณีที่จำเลยผู้เช่าละเมิดขัดขืนไม่ยอมออกไปจากห้องเช่าของโจทก์ อีกประการหนึ่ง การที่จำเลยชำระเงินค่าเช่าให้โจทก์นั้น ถึงหากเจตนาของจำเลยประสงค์จะเช่าห้องพิพาทอยู่ต่อไป ก็เป็นแต่เจตนาของจำเลยแสดงออกแต่ฝ่ายเดียว หามีผลเกิดเป็นสัญญาเช่าไม่
พิพากษายืน

Share