แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานฉ้อโกงหรือยักยอกนั้น ถ้าฟ้องโจทก์บรรยายถึงการกระทำต่าง ๆ ของจำเลยซึ่งอาจเป็นผิดฐานฉ้อโกง หรือยักยอกฐานใดฐานหนึ่งได้นั้น แม้จะอ้างบทขอให้ลงโทษมาทั้งฐานฉ้อโกงและยักยอก ก็ถือได้ว่าโจทก์ประสงค์จะขอให้ลงโทษแต่ฐานใดฐานหนึ่งแต่ฐานเดียว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ รับไว้พิจารณาได้
ย่อยาว
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยสมคบกันใช้อุบายหลอกลวงโดยเอาความเท็จมากล่าวให้นางเหรียญส่งหนังสือสัญญาให้จำเลยเมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๔๘๘ เวลากลางวัน หรือมิฉะนั้น จำเลยได้รับมอบหมายหนังสือสัญญาจากนางเหรียญไปแล้ว บังอาจมีเจตนาทุจจริตเบียดบังเอาเป็นประโยชน์ส่วนตนเสีย เมื่อเวลาใดไม่ปรากฎชัดระหว่างวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๔๘๘ เวลากลางวันถึงวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๔๘๘ เวลากลางวัน อ้างบทขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. ๓๐๔, ๓๑๔
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยว่า ฟ้องเคลือบคลุม
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ, ให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องโจทก์ไว้
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ได้บรรยายฟ้องกล่าวถึงการกระทำต่าง ๆ ของจำเลยซึ่งอาจเป็นความผิดฐานใดฐานหนึ่งก็ได้ โดยโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยแต่ฐานเดียวมิได้ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดทั้งสองฐาน จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ จึงพิพากษายืน