คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8934/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 26 ได้บัญญัติเรื่องขยายระยะเวลาวางเงินต่อศาลแรงงานในการฟ้องคดีไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ไม่อาจนำ ป.วิ.พ. มาตรา 23 ซึ่งเป็นบทบัญญัติทั่วไปมาใช้บังคับโดยอนุโลมได้
พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 26 ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการขยายระยะเวลาวางเงินต่อศาลตามจำนวนที่ถึงกำหนดจ่ายตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานในการฟ้องคดีที่ศาลแรงงานกลางกำหนดไว้แล้วว่าจะกระทำได้เมื่อมีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โดยไม่จำต้องมีพฤติการณ์พิเศษดังเช่นบัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 23 การที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งในคดีนี้ว่าตามคำร้องของโจทก์ทั้งสามไม่มีพฤติการณ์พิเศษที่จะขยายระยะเวลาวางเงินได้ เท่ากับศาลแรงงานกลางได้วินิจฉัยแล้วว่าคดียังไม่มีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะขยายระยะเวลาการวางเงินให้แก่โจทก์ทั้งสามนั่นเอง โจทก์ทั้งสามอ้างว่าประกอบกิจการขาดทุนไม่มีเงินทุนหมุนเวียนและไม่มีรายได้ใด ๆ ที่จะนำมาวางต่อศาลในการฟ้องคดี แต่กำลังดำเนินการขอเงินประกันคืนจากนายทะเบียนจัดหางานกลางและมีทางชนะคดีได้ เช่นนี้เป็นความบกพร่องของฝ่ายโจทก์ทั้งสามเอง ถือไม่ได้ว่าคดีมีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่ศาลแรงงานกลางจะพึงขยายระยะเวลาการวางเงินให้แก่โจทก์ทั้งสาม

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสามฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานที่ ๑๑/๒๕๔๓ ลงวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๔๓ ของจำเลย
โจทก์ทั้งสามยื่นคำร้องในวันยื่นคำฟ้องต่อศาลแรงงานกลางเมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๔๓ ขอขยายเวลาวางเงินจำนวนที่ถึงกำหนดจ่ายตามคำสั่งของจำเลยต่อศาลแรงงานกลางออกไปอีก ๓๐ วัน ศาลแรงงานกลางสั่งอนุญาตให้ขยายเวลาวางเงินออกไป ๑๕ วัน ต่อมาวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๔๓ โจทก์ทั้งสามยื่นคำร้องขอขยายเวลาวางเงินดังกล่าวออกไปอีก ๓๐ วัน อ้างว่าโจทก์ทั้งสามประสบปัญหาขาดทุนไม่มีเงินทุนหมุนเวียน ศาลแรงงานกลางพิเคราะห์แล้ว มีคำสั่งว่า จำนวนเงินที่โจทก์ทั้งสามต้องวางศาลเป็นเงินเพียง ๑๖๘,๗๐๙ บาท และตามคำร้องไม่ปรากฏพฤติการณ์พิเศษ จึงไม่มีเหตุที่จะขยายระยะเวลาวางเงินแก่โจทก์ทั้งสามอีก ยกคำร้อง
โจทก์ทั้งสามอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า กรณีนี้ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานกลางและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๒๖ ได้บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะแล้ว จึงไม่อาจนำ ป.วิ.พ. มาตรา ๒๓ ซึ่งเป็นบทบัญญัติทั่วไปมาใช้บังคับโดยอนุโลมตามมาตรา ๓๑ แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้ มาตรา ๒๖ แห่งบทกฎหมายดังกล่าวบัญญัติว่า ระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่ศาลแรงงานได้กำหนด ศาลแรงงานมีอำนาจย่นหรือขยายได้ตามความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม แสดงให้เห็นว่า การขยายระยะเวลาวางเงินต่อศาลตามจำนวนที่ถึงกำหนดจ่ายตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานในการฟ้องคดีที่ศาลแรงงานกลางกำหนดไว้ มาตรา ๒๖ ได้วางหลักเกณฑ์ว่าจะกระทำได้เมื่อมีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม หาได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่าจะต้องมีพฤติการณ์พิเศษเช่นที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา ๒๓ ไม่ การที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งในคดีนี้ว่าตามคำร้องของโจทก์ทั้งสามไม่มีพฤติการณ์พิเศษที่จะขยายระยะเวลาวางเงินได้ เท่ากับศาลแรงงานกลางได้วินิจฉัยแล้วว่าคดียังไม่มีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะขยายระยะเวลาการวางเงินให้แก่โจทก์ทั้งสามนั่นเอง เมื่อปรากฏว่าโจทก์ทั้งสามประกอบกิจการขาดทุนไม่มีเงินทุนหมุนเวียนและไม่มีรายได้ใด ๆ ที่จะนำมาวางต่อศาลในการฟ้องคดีตามที่ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๒๕ วรรคสามกำหนด ย่อมเป็นความบกพร่องของฝ่ายโจทก์ทั้งสามเอง ถือไม่ได้ว่าคดีมีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่ศาลแรงงานกลางจะพึงขยายระยะเวลาการวางเงินให้แก่โจทก์ทั้งสาม อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสามฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share