คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8877/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การระวางโทษทวีคูณตามมาตรา 113 แห่ง พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้าฯ ที่บัญญัติว่า “บุคคลใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนดห้าปี กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้อีก ให้ระวางโทษทวีคูณ” ไม่ต้องพิจารณาว่าจะต้องพ้นโทษจำคุกที่รอไว้อีกหรือไม่ เพราะเพียงแต่ได้รับโทษปรับก็ถือว่าต้องระวางโทษตาม พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้าฯ นี้แล้ว กรณีต้องวางโทษทวีคูณตามบทมาตราดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ ให้จำคุก ๖ เดือน ปรับ ๕,๕๐๐ บาท โทษจำคุกรอการลงโทษมีกำหนด ๑ ปี ตามคดีหมายเลขแดงที่ ๒๕๒๙/๒๕๔๐ ของศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๐ จำเลยได้รับโทษปรับและพ้นโทษมาแล้วยังไม่ครบกำหนดห้าปีและจำเลยได้มากระทำความผิดในคดีนี้อีก ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๔, ๑๐๘, ๑๑๐, ๑๑๓, ๑๑๕, ๑๑๗ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒, ๓๓ ริบของกลางและวางโทษทวีคูณแก่จำเลย
จำเลยให้การรับสารภาพและรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒๕๒๙/๒๕๔๐ ของศาลอาญากรุงเทพใต้
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ ส่วนที่โจทก์ขอให้วางโทษทวีคูณนั้น เห็นว่า คดีก่อนนี้ทั้งรอการลงโทษจำคุกและปรับ แม้จะถือว่าพ้นโทษปรับแล้ว แต่ก็ยังถือไม่ได้ว่าพ้นโทษจำคุก กรณีจึงวางโทษจำคุกทวีคูณตามพระราชบัญญัติ เครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๑๑๓ ไม่ได้ จึงให้ยกคำขอส่วนนี้
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ขอให้วางโทษทวีคูณแก่จำเลย
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า โทษสำหรับลงแก่ ผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘ ดังนี้ (๑) ประหารชีวิต (๒) จำคุก (๓) กักขัง (๔) ปรับ และ (๕) ริบทรัพย์สิน การปรับจึงเป็นโทษอย่างหนึ่ง ฉะนั้น การที่จำเลยต้องวางโทษให้ปรับในคดีความผิดตาม พระราชบัญญัติเดียวกันนี้ เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๐ และมากระทำความผิดนี้อีกจึงเป็นกรณีที่จำเลยพ้นโทษมาแล้วยังไม่ครบกำหนดห้าปี ถือว่ากรณีต้องด้วยมาตรา ๑๑๓ แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ ที่บัญญัติว่า “บุคคลใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนดห้าปี กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้อีกให้ระวางโทษทวีคูณ” กรณีจึงไม่ต้องพิจารณาว่าจะต้องพ้นโทษจำคุกที่รอไว้อีกหรือไม่ เพราะเพียงแต่ได้รับโทษปรับก็ถือว่าต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ นี้แล้ว
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้วางโทษทวีคูณแก่จำเลยตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามมาตรา ๑๑๓ จำคุก ๔ ปี ปรับ ๑๒๐,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลย ๒ ปี ปรับ ๖๐,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษา ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง

Share