คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8875/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.7 เป็นเอกสารที่โจทก์อ้างและนำส่งต่อศาลแรงงานเพื่อเป็นพยานหลักฐานในคดี จึงต้องสันนิษฐานว่าเอกสารดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของโจทก์ หากโจทก์ขอรับเอกสารดังกล่าวคืนศาลแรงงานก็ชอบที่จะสั่งอนุญาตคืนให้แก่โจทก์ จำเลยไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลแรงงานมีคำสั่งไม่อนุญาตให้คืนเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.7 แก่โจทก์ ส่วนข้อที่จำเลยโต้แย้งว่าจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เอกสารดังกล่าว ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องไปว่ากล่าวเป็นคดีต่างหากต่อศาลที่มีอำนาจพิจารณาต่อไป

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน จำนวน 389,534 บาท แก่โจทก์ ศาลฎีกาพิพากษายืน จำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 20 มกราคม 2542 ต่อศาลแรงงานกลางว่า เอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.6 ที่โจทก์อ้างส่งไว้ในสำนวน เป็นต้นฉบับเอกสารและคู่ฉบับเอกสารของจำเลยที่โจทก์นำไปจากการครอบครองของจำเลยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยได้ร้องทุกข์ไว้คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนหากโจทก์ขอรับคืนจากศาลจะทำให้รูปคดีอาญาที่จำเลยร้องทุกข์ไว้เสียหายได้ ขอให้ศาลไม่อนุญาตให้โจทก์รับเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.6 คืนไป ศาลแรงงานกลางสั่งคำร้องว่า รอไว้พิจารณาสั่งเมื่อโจทก์ขอรับเอกสารคืน ต่อมาวันที่ 21 มกราคม 2542 จำเลยยื่นคำร้องว่า คำร้องฉบับลงวันที่ 20 มกราคม 2542 ของจำเลยได้ระบุเอกสารที่โจทก์อ้างส่งและศาลรับไว้ผิดพลาดไป กล่าวคือเอกสารที่โจทก์อ้างส่งไว้มีทั้งหมด 7 ชุด ได้แก่เอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.7จำเลยประสงค์ให้ศาลไม่อนุญาตให้โจทก์รับเอกสารคืนไปรวมทั้งเอกสารหมาย จ.7 ด้วยศาลแรงงานกลางสั่งคำร้องในวันรุ่งขึ้นว่า คดีถึงที่สุดแล้ว เอกสารเป็นของโจทก์หากโจทก์ขอรับคืนก็เป็นสิทธิตามกฎหมายของโจทก์ ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า คำสั่งศาลแรงงานกลางที่สั่งในคำร้องของจำเลยฉบับลงวันที่ 21 มกราคม 2542 ว่าเอกสารทั้งหมดเป็นของโจทก์ หากโจทก์ขอรับคืนก็เป็นสิทธิตามกฎหมายของโจทก์ให้ยกคำร้อง เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะเอกสารดังกล่าวจะเป็นของโจทก์หรือจำเลยยังเป็นข้อโต้เถียงที่ต้องพิสูจน์ในคดีอาญาที่จำเลยร้องทุกข์ไว้แล้วนั้น เห็นว่าข้อเท็จจริงรับฟังยุติได้ว่าเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.7 ที่จำเลยยื่นคำร้องขอไม่ให้ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้คืนแก่โจทก์นั้น เป็นเอกสารที่โจทก์อ้างและนำส่งต่อศาลแรงงานกลางเพื่อเป็นพยานหลักฐานในคดี ฉะนั้นจึงต้องสันนิษฐานว่าเอกสารดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของโจทก์หากโจทก์ขอรับเอกสารดังกล่าวคืนศาลแรงงานกลางก็ชอบที่จะสั่งอนุญาตคืนให้แก่โจทก์ ส่วนข้อโต้แย้งของจำเลยที่อ้างว่าจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เอกสารดังกล่าวนั้นก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องไปว่ากล่าวเป็นคดีต่างหากต่อศาลที่มีอำนาจพิจารณาต่อไปจำเลยไม่มีสิทธิที่จะร้องขอไม่ให้ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตคืนเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.7 ให้แก่โจทก์

พิพากษายืน

Share