แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์ข้อ 1 ว่า จำเลยสมคบกันมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจำหน่าย 40 ฉบับราคา 400 บาท และได้จำหน่ายธนบัตรจำนวนนั้นให้แก่นายดีไปทั้งหมด ข้อ 2 กล่าวว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้และได้ธนบัตรของกลาง 35ฉบับเท่าที่ค้นได้ และเหลือจำหน่ายในหีบในห้องนอนของจำเลย ขอให้ลงโทษจำเลย ดังนี้คำบรรยายฟ้องในข้อ 1 ไม่กินถึงธนบัตรของกลาง 35 ฉบับในข้อ 2 และเมื่อโจทก์ไม่ได้บรรยายถึงองค์ความผิดประกอบประการใดในฟ้องข้อ 2 จึงลงโทษจำเลยสำหรับความผิดเกี่ยวกับธนบัตรของกลาง 35ฉบับนี้ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ข้อ 1. จำเลยสมคบกัน มีธนบัตรปลอมฉบับละ 10 บาทไว้เพื่อจำหน่าย 40 ฉบับ เป็นราคา 400 บาท และจำเลยที่ 2 ได้จำหน่ายธนบัตรปลอมของกลางดังกล่าว ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของปลอมนั้นให้แก่นายดีเป็นค่ากระบือข้อ 2 เจ้าพนักงานจับจำเลยได้ และได้ธนบัตรปลอมจำนวน 35 ฉบับ ราคา 350 บาท เท่าที่ค้นและเหลือจำหน่ายในหีบในห้องนอนของจำเลยที่ 2 ขอให้ลงโทษจำเลยให้การปฏิเสธ และว่าฟ้องเคลือบคลุม ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 12 ปีตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ยืนยันข้อเท็จจริงในฟ้องข้อ 1 ชัดเจนว่า จำเลยสมคบกันมีธนบัตรปลอม 40 ฉบับ และได้จำหน่ายธนบัตรปลอมจำนวนนั้นไปให้แก่นายดีไปทั้งหมด หาได้กล่าวหาว่ามีรวม 75 ฉบับไม่ ในข้อ 2. ซึ่งกล่าวถึงธนบัตรของกลาง 35 ฉบับ ก็กล่าวแต่เพียงว่า ที่เหลือจำหน่ายหาได้บรรยายถึงองค์ความผิดแต่ประการใดอีกไม่ คำบรรยายในข้อ 1 ไม่กินความถึงธนบัตรของกลาง 35 ฉบับนี้ฉะนั้น จึงไม่ต้องวินิจฉัยถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวแก่ธนบัตรของกลางต่อไปส่วนข้อหาเกี่ยวกับธนบัตรของกลาง 40 ฉบับ คดีไม่พอฟังลงโทษจำเลยได้
พิพากษายืน