คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 886/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญากู้มีอัตราดอกเบี้ยเป็นนิติกรรมเดียว มิใช่นิติกรรมกู้ และนิติกรรมดอกเบี้ยสัญญามีว่าเมื่อไม่ส่งดอกเบี้ยตามกำหนดให้ถือว่าผิดสัญญาดังนี้อายุความเริ่มนับแต่วันนี้ไม่ใช่เริ่มนับแต่วันครบกำหนดสัญญา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้รับมฤดกนางเกริ๊อก จำเลยได้กู้เงินนางเกริ๊อกไป ๕๐๐ บาท เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๔๘๐ จำเลยได้ชำระดอกเบี้ยมาเพียง ๓ ปี จึงขอเรียกต้นเงินและดอกเบี้ย ๕ ปี รวม ๘๗๕ บาทจำเลยให้การว่าไม่เคยกู้เงินนางเกริ๊อกไม่เคยส่งดอกเบี้ย และตัดฟ้องว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งมาตรา ๑๖๓,๑๖๔ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ฎีกาของโจทก์ข้อที่ว่าการกู้เงินมีสัญญา ให้ดอกเบี้ยต้องนิติกรรมดอกเบี้ยนั้นเป็นไปไม่ได้ กรณีเช่นนี้ต้องถือว่าเป็นนิติกรรมเดียว เรื่องนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่เคยส่งดอกเบี้ยแก่โจทก์เลย และสัญญามีความว่าการผิดนัดส่งดอกเบี้ยถือว่าผิดสัญญา จำเลยควรส่งดอกเบี้ยภายในวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๑ แต่ไม่ได้ส่ง อายุความจึงเริ่มนับแต่วันนั้น โจทก์เพิ่งฟ้องคดีเมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๒ คดีของโจทก์ก็ขาดอายุความ ๑๐ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่ง ฯ มาตรา ๑๖๔ แล้ว เรื่องข้อตัดฟ้องนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยตัดฟ้องทั้งคดี มิใช่ฉะเพาะส่วนต้นเงินอย่างเดียว ส่วนเรื่องศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีพะยานเมื่อโจทก์สืบพะยานไปแล้ว ๓ ปาก เป็นการผิดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๘๗,๘๘+นั้น เรื่องนี้ศาลมิได้วินิจฉัยโดยอาศัยคำพะยานจำเลย ฉะนั้นฎีกาข้อนี้จึงไม่ต้องวินิจฉัย พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share