แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
พ.ร.บ. ควบคุมอาคารฯ มาตรา 4 ให้คำนิยามว่า คำว่า อาคารหมายถึง ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า สำนักงานและสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่น ซึ่งบุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ จำเลยปลูกเพิงเป็นที่อยู่อาศัยและขายเครื่องดื่มและสินค้าพื้นเมืองขึ้นชั่วคราวในที่ดิน ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้เพิงดังกล่าวใช้วัสดุค้ำหลังคาไว้มีลักษณะเป็นการชั่วคราวสามารถรื้อถอนได้โดยง่ายก็มีสภาพเป็นอาคารตามความหมายที่กฎหมายบัญญัติไว้ส่วนคำว่า ก่อสร้างนั้นพ.ร.บ. ควบคุมอาคารฯ มาตรา 4 ให้คำนิยามว่า หมายถึงสร้างอาคารขึ้นใหม่ทั้งหมด เมื่อ พ.ร.บ. ดังกล่าวให้คำนิยามไว้โดยเฉพาะแล้วย่อมจะนำเอาความหมายตามพจนานุกรมมาใช้แก่คดีนี้ไม่ได้ จำเลยสร้างอาคารขึ้นใหม่ทั้งหมด แม้จะเป็นการชั่วคราวก็เป็นการก่อสร้างอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9,108, 108 ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ลงวันที่ 29กุมภาพันธ์ 2515 ข้อ 11 พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522มาตรา 4, 21, 65, 70, 71 ให้จำเลยและบริวารของจำเลยออกจากที่ดินซึ่งเข้าไปยึดถือครอบครองดังกล่าวด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9, 108, 108 ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ลงวันที่29 กุมภาพันธ์ 2515 ข้อ 11 พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522มาตรา 4, 21, 65, 70, 71 เป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษตามประมวลกฎหมายที่ดินซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดจำคุก 6 เดือน ปรับ 6,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ปรับ3,000 บาท โทษจำคุกรอไว้ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30ให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดินซึ่งเข้าไปยึดถือครอบครองด้วย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงตามคำให้การของจำเลยและหนังสือขอความกรุณาอาศัยที่ทำมาหากินเป็นการชั่วคราวพร้อมภาพถ่ายเพิงอาศัยค้าขายปรากฏว่า จำเลยได้ปลูกเพิงเป็นที่อยู่อาศัยและขายเครื่องดื่มและสินค้าพื้นเมืองขึ้นชั่วคราวในที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่ได้รับอนุญาตจริงมีปัญหาตามที่จำเลยฎีกาว่า การที่จำเลยปลูกเพิงดังกล่าวจะเป็นการก่อสร้างอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 หรือไม่นั้น เห็นว่าตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 4 คำว่า อาคารหมายความถึง ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า สำนักงานและสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่นซึ่งบุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ดังนั้น เพิงที่จำเลยปลูกขึ้นอยู่อาศัยและทำการค้าขายด้วยนั้นแม้จะใช้วัสดุค้ำหลังคาไว้ อันมีลักษณะเป็นการชั่วคราวสามารถรื้อถอนได้โดยง่ายก็ตาม ก็มีสภาพเป็นอาคารตามความหมายที่กฎหมายได้บัญญัติไว้ ส่วนคำว่าก่อสร้าง นั้น พระราชบัญญัติควบคุมอาคารพ.ศ. 2522 มาตรา 4 ก็ได้ให้คำนิยามไว้ว่า หมายถึง สร้างอาคารขึ้นใหม่ทั้งหมด เมื่อพระราชบัญญัติดังกล่าวให้คำนิยามไว้โดยเฉพาะแล้ว ย่อมจะนำเอาความหมายตามพจนานุกรมมาใช้แก่คดีนี้ไม่ได้การที่จำเลยสร้างอาคารขึ้นใหม่ทั้งหมดจึงเป็นการก่อสร้างอาคารแม้จะเป็นการชั่วคราวก็ไม่อาจกระทำได้ ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.