แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดี ยึดทรัพย์ของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา มาขายทอดตลาดได้ราคาพอสมควรแล้ว เมื่อไม่ปรากฏว่า การขายทอดตลาดได้เป็นไปโดยไม่สุจริต และเวลาก็ล่วงเลยไปถึง 17 วันแล้ว จำเลยจะมาร้องขอให้ศาลขายทอดตลาดใหม่โดยอ้างว่า ขายได้ราคาต่ำมาก และจำเลยกับภรรยาถูกผู้อื่นหลอกลวงไม่ให้ไปสู้ราคา ไม่ได้
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลย และได้ขายทอดตลาดไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2498 คือ ที่นาเนื้อที่ 180 ไร่เศษ ขายได้ราคา 13,500 บาท ที่ดินปลูกบ้าน 7 ไร่ได้ราคา 825 บาท เรือน 1 หลัง ได้ราคา 1,300 บาท โจทก์เป็นผู้ให้ราคาสูง และเป็นผู้ซื้อได้ ต่อมาวันที่ 25 กรกฎาคม 2498 จำเลยยื่นคำร้องว่า ทรัพย์ทั้ง 3 รายการนี้ขายทอดตลาดได้ราคาต่ำจากความเป็นจริงมาก ขอให้ศาลสั่งประกาศขายทอดตลาดใหม่
ศาลชั้นต้นสั่งว่าได้ดำเนินการขายทรัพย์ตามที่จำเลยร้องมานี้แล้วจึงขายใหม่ไม่ได้ ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาเห็นว่าจำเลยทราบวันเวลาขายทอดตลาดดีอยู่แล้ว จำเลยมีหน้าที่จะต้องระวังรักษาผลประโยชน์ของตนชอบที่จะหาคนมาประมูลสู้ราคาได้ แต่ก็ไม่ทำ เจ้าพนักงานได้ขายทอดตลาดไป ไม่ปรากฏว่า การขายได้เป็นไปโดยไม่สุจริต จำเลยจะมาร้องขอให้ขายใหม่ไม่ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาคดีแล้ว จำเลยอ้างว่า ได้ให้ภรรยาไประวังการขายทอดตลาดทรัพย์ในคดีที่ยึดนี้ แต่ถูกนายฉางผู้เข้าประมูลสู้ราคาหลอกลวงให้ภรรยาจำเลยนั่งรออยู่ข้างศาล มิได้เข้าไปรู้เห็นในการขายทอดตลาดด้วย ถ้าเป็นจริงดังจำเลยว่า เมื่อนางเขียว ภรรยาจำเลยทราบว่า การขายทอดตลาดได้ราคาต่ำมาก และมีผู้เข้าประมูลสู้ราคาเป็นจำนวนน้อย ก็น่าจะร้องต่อศาลเสียในวันนั้นแต่จำเลยเพิ่งมาร้องเมื่อภายหลังการขายทอดตลาดถึง 17 วัน อ้างเหตุแต่เพียงว่า เป็นราคาที่ตกต่ำจากความเป็นจริงอยู่มาก ขอให้ประกาศขายทอดตลาดใหม่ การขายทอดตลาดนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศให้ทราบล่วงหน้าเป็นเวลาถึง 30 วัน จำเลยน่าจะระวังรักษาผลประโยชน์ของตน หาคนมาเข้าสู้ประมูลราคากับโจทก์ได้ แต่จำเลยหาได้กระทำไม่ เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่า ราคาประมูลพอสมควรจึงตกลงขายไป ศาลล่างทั้งสองก็เห็นว่าราคาพอสมควร ซึ่งศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย เมื่อไม่ปรากฏว่าการขายทอดตลาดได้เป็นไปโดยไม่สุจริตแล้ว จำเลยจะอ้างความไม่ฉลาดของตนหรือภรรยามารื้อฟื้นขอให้กลับมาขายทอดตลาดใหม่อีกไม่ได้
จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยกฎีกาจำเลย ให้จำเลยเสียค่าทนายแทนโจทก์ชั้นฎีกา 50 บาท