คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้จำนอง จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินที่จำนองเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ที่ดินที่โจทก์นำยึดดังกล่าวผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์อยู่ด้วยส่วนหนึ่ง โดยผู้ร้องได้ครอบครองโดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาเกิน 10ปีแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 จึงขอให้ปล่อยการยึดที่ดินเฉพาะส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโจทก์ให้การว่าโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนข้ออ้างของผู้ร้องจึงยกขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้ ดังนี้ตามข้ออ้างของผู้ร้องเป็นเพียงการได้มาซึ่งสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่นอันมิใช่เป็นการได้มาโดยทางนิติกรรม แต่ผู้ร้องไม่ได้จดทะเบียนสิทธิของตนไว้ จึงไม่อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้ ทั้งต้องห้ามมิให้ยกเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ส่วนปัญหาว่าโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ ผู้ร้องก็ไม่ได้กล่าวอ้างหรือยกเป็นประเด็นเพื่อการนำสืบไว้ในคำร้องทั้ง ๆ ที่ภาระการพิสูจน์ตกแก่ฝ่ายตนที่จะหักล้างข้อสันนิษฐานอันเป็นคุณแก่โจทก์ว่า บุคคลทุกคนกระทำการโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 6 คดีจึงไม่มีประเด็น ข้อพิพาทว่าโจทก์รับจำนองโดยสุจริตหรือไม่ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำร้องและคำให้การของโจทก์แล้วว่าโจทก์รับจำนองที่พิพาทโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว จึงได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1299 วรรคสอง ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิขอให้ปล่อยทรัพย์พิพาท
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หยิบยกประเด็นเรื่องโจทก์รับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่ขึ้นวินิจฉัย เป็นการไม่ชอบ ถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องฎีกาในปัญหาข้อนี้จึงเป็นฎีกานอกประเด็นที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้จำนองแก่โจทก์จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดที่จำนองเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าที่ดินดังกล่าวผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์อยู่ด้วยส่วนหนึ่ง โดยครอบครองเป็นส่วนสัดด้วยเจตนาเป็นเจ้าของโดยความสงบและเปิดเผยตลอดมากว่า 10 ปี ขอให้ปล่อยการยึดที่ดินเฉพาะส่วนดังกล่าว

โจทก์ให้การว่า ข้ออ้างของผู้ร้องไม่อาจยกเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้รับจำนองที่ดินโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์รับจำนองที่พิพาทโดยสุจริต แม้ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง แต่ก็ไม่ได้จดทะเบียน จึงยกเป็นข้อต่อสู้โจทก์ไม่ได้พิพากษายกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ร้องฎีกาว่าผู้ร้องได้ครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ และเป็นส่วนสัดติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 10 ปี จนที่พิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้ร้องแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะนำยึดที่พิพาทแปลงนี้ ตามข้ออ้างของผู้ร้องดังกล่าวเป็นที่เห็นได้ว่า ข้ออ้างของการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทของผู้ร้องเป็นการอ้างสิทธิครอบครองโดยอำนาจปรปักษ์ ศาลฎีกาเห็นว่าแม้จะฟังเป็นจริงได้ตามที่ผู้ร้องอ้าง ก็เป็นเพียงการได้มาซึ่งสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่น อันมิใช่เป็นการได้มาโดยทางนิติกรรม เมื่อผู้ร้องอ้างสิทธิการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว แต่ผู้ร้องก็ไม่ได้จดทะเบียนสิทธิของตนไว้ จึงไม่อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้ ทั้งต้องห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว ดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ส่วนปัญหาว่าโจทก์ผู้รับจำนองรับจำนองไว้โดยสุจริตหรือไม่นั้น เห็นว่าผู้ร้องมิได้กล่าวอ้างหรือยกเป็นประเด็นเพื่อการนำสืบไว้ในคำร้อง ทั้ง ๆ ที่ภาระการพิสูจน์ตกแต่ฝ่ายตนที่จะหักล้างข้อสันนิษฐานอันเป็นคุณแก่โจทก์ ว่าบุคคลทุกคนกระทำการโดยสุจริตดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 6 คดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์รับจำนองที่พิพาทไว้โดยสุจริตหรือไม่ ดังนั้นที่ศาลล่างทั้งสองหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นวินิจฉัยจึงเป็นการไม่ชอบ และถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ข้อฎีกาของผู้ร้องในปัญหาข้อนี้จึงเป็นฎีกานอกประเด็นที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำร้องของผู้ร้องและคำให้การโจทก์ว่า โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเป็นผู้ได้มาซึ่งสิทธิการจำนองที่ดินตามโฉนดพิพาทโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธินั้นโดยสุจริตแล้ว ย่อมได้รับความคุ้มครองในสิทธิแห่งตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ปล่อยทรัพย์พิพาทที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการยึดไว้นั้นได้

พิพากษายืน

Share