แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การรอการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ศาลจะต้องกำหนดระยะเวลาที่ศาลรอการลงโทษไว้ แต่ต้องไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันที่ศาลพิพากษา
เมื่อโจทก์ฎีกาโดยขอให้ศาลฎีกากำหนดเวลารอการลงโทษไปด้วย ศาลฎีกาย่อมพิพากษาในข้อนี้ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองพกไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 กระบอกและกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม 1 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนดังกล่าวติดตัวไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490มาตรา 7, 8, 8 ทวิ, 55, 72, 72 ทวิ, 78 ฯลฯ ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ฐานมีอาวุธปืนจำคุก 1 ปี ฐานมีกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะในการสงคราม จำคุก 2 ปี ฐานพกพาอาวุธปืน จำคุก 6 เดือน รวมลงโทษจำคุก 3 ปี 6 เดือน จำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี 9 เดือน ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ปรับฐานมีปืน 2,000 บาท ฐานพกพาปืน1,000 บาท รวมปรับ 3,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 1,500 บาท ให้รอการลงโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ให้รอการลงโทษจำเลยโดยมิได้กำหนดระยะเวลาไว้ด้วยเป็นการไม่ชอบ ขอให้พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นการรอการลงโทษโดยกำหนดเวลาไว้ด้วย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การรอการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ศาลจะต้องกำหนดระยะเวลาที่ศาลรอการลงโทษไว้ แต่ต้องไม่เกิน5 ปี นับแต่วันที่ศาลพิพากษา กรณีนี้ศาลอุทธรณ์รอการลงโทษโดยไม่กำหนดระยะเวลาไว้จึงไม่ชอบ ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น และเมื่อโจทก์ฎีกาโดยขอให้ศาลฎีกากำหนดเวลารอการลงโทษไปด้วย ศาลฎีกาย่อมพิพากษาในข้อนี้ได้
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์