คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานบุกรุกตาม ม.327 จะต้องมีเจตนามิให้ผู้อื่นครอบครองที่ดินของเขาได้โดยปกติสุข ฎีกาอุทธรณ์ ปัญหาข้อเท็จจริง เจตนาหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง เจตนาทำให้เสียทรัพย์หรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องเป็นทางอาชญาขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกแลฐานทำให้เสียทรัพย์
ศาลเดิมฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อพ.ศ.๒๔๗๐ โจทก์ได้ยื่นเรื่องราวขอจองที่ดินแปลงหนึ่ง ต่อมา พ.ศ.๒๔๗๓ จำเลยก็ยื่นเรื่องราวขอจองที่ดินแปลงนี้บ้าง เมื่อขอจองแล้วจำเลยก็เข้าทำการก่นสร้างปลูกที่พักแลทำรั้วกั้นเขตต์ ต่อมาทางอำเภอได้ทำการไกล่เกลี่ย ให้โจทก์กับจำเลยปรองดองแบ่งที่ดินกัน โจทก์ชี้เอาตรงที่พิพาทนี้ จำเลยไม่ยอมในที่สุดโจทก์ก็ได้ที่รายนี้แต่จำเลยก็คงปกครองเรื่อยมา เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๖ ทางการำได้ออกตรวจจองให้แก่โจทก์ โจทก์จึงไปทำรั้ว แต่แล้วจำเลยก็รื้อรั้วออกเสีย
ศาลเดิมเห็นว่ากรณีเป็นเรื่องโต้เถียงกรรมสิทธิกันในทางแพ่งแลข้อที่จำเลยรื้อรั้วก็มิได้มีเจตนาจะทำให้เสียทรัพย์ จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดตาม ม.๓๒๗ จะต้องมีเจตนาจะให้ผู้อื่นครอบครองที่ดินของเขาโดยปกติสุข ข้อที่โจทก์มีตราจองสำหรับที่จึงเป็นแต่เพียงหลักฐานส่วนหนึ่งที่จะพิศูจน์เจตนาของจำเลย แต่ศาลเดิมได้ชี้ขาดไว้แล้วว่าจำเลยมิได้มีเจตนา ฎี่กาโจทก์เป็นการคัดค้านในข้อเท็จจริง ส่วนเจตนาทำให้เสียทรัพย์ก็เป็นปัญหาข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาไม่ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share