คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยซื้อโคของกลางจากตลาดซื้อขายโคกระบือโดยไม่มีตั๋วพิมพ์รูปพรรณ แต่ปรากฏว่าโคนั้นมีอายุ 10 กว่าปีใช้งานได้ และมีตั๋วพิมพ์รูปพรรณแล้ว ทั้งพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ พ.ศ. 2482 มาตรา 8 ก็บังคับไว้ว่าโคที่ใช้งานได้แล้วให้นำไปจดทะเบียนทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณ เป็นการแสดงว่าจำเลยย่อมจะรู้ว่าโคนั้นมีตั๋วพิมพ์รูปพรรณแล้ว การที่จำเลยซื้อไว้โดยอ้างว่าไม่มีตั๋วพิมพ์รูปพรรณจึงเป็นพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางไม่สุจริต จะยกขึ้นโต้แย้งกรรมสิทธิ์ของเจ้าของโคหาได้ไม่.

ย่อยาว

คดีสองเรื่องนี้ ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยโจทก์แยกฟ้องจำเลยคนละสำนวนเป็นใจความเดียวกันว่า เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๐๖ มีคนร้ายลักโคโจทก์ไป ๒ ตัว รุ่งขึ้นวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๐๖ ได้ตามไปพบโคของโจทก์ที่คนร้ายลักไปชื่อผู้ขาวที่บ้านนายจายจำเลยที่ ๑ และชื่อผู้เหลืองแซมขาวที่บ้านนายจันทร์จำเลยที่ ๒ โดยจำเลยบังอาจรับโคของโจทก์รายนี้ไว้โดยรู้ว่าเป็นโคที่ได้มาจากการลัก โจทก์ขอรับโคของกลางคืน จำเลยโต้แย้งสิทธิขัดขวางไม่ยอมคืนให้โจทก์ จึงขอให้สั่งว่าโคของกลางเป็นของโจทก์ หรือไม่ก็ให้คืนหรือใช้ราคาโครวมกับค่าเสียหายด้วย
จำเลยทั้งสองสำนวนให้การว่า ซื้อโคมาจากเจ้าของในตลาดนัดซื้อขายโคกระบืออย่างเปิดเผยโดยสุจริต ไม่ใช่โคของโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะเรียกคืนหรือให้ใช้ราคา
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โคของกลางมีจำนวนขวัญแตกต่างกับในตั๋วพิมพ์รูปพรรณที่โจทก์อ้างว่าเป็นของตน ฟังไม่ได้ว่าโคของกลางเป็นของโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยโดยเชื่อว่าโคของกลาง ๒ ตัวนี้เป็นของโจทก์ สงสัยว่านายแก้ว กันธะ ที่จำเลยอ้างว่าเอาโครายนี้มาขายให้จำเลยนั้น อาจลักโคของโจทก์มาก็เป็นได้ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า โคของกลางเป็นของโจทก์ คืนให้โจทก์ไป ถ้าคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาพร้อมด้วยดอกเบี้ยตามฟ้อง คำขอให้ใช้ค่าเสียหาย โจทก์สืบไม่ได้ว่าเสียหายอย่างใดให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาว่า โคของกลางไม่ใช่โคของโจทก์ และจำเลยซื้อโครายนี้มาจากตลาดนัดอย่างเปิดเผยโดยสุจริต โคควรเป็นของจำเลย โจทก์เรียกคืนไม่ได้ โจทก์ไม่ได้ฎีกาปัญหาเรื่องค่าเสียหายก่อนฟ้องจึงยุติ
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยเมื่อสรุปแล้วเชื่อว่าโคของกลางเป็นของโจทก์ที่ถูกคนร้ายลักไปทั้งสองตัว ปัญหาต่อไปมีว่า จำเลยได้ซื้อโครายนี้ไปจากการขายในตลาดนัดโดยสุจริตหรือไม่ ได้ความว่าโคของกลางเป็นโคผู้มีอายุ ๑๐ กว่าปี และใช้งานได้แล้วทั้งสองตัว ตัวสีขาวมีตั๋วพิมพ์รูปพรรณแต่ พ.ศ. ๒๕๐๐ ตัวสีเหลืองแซมขาวมีตั๋วพิมพ์รูปพรรณแต่ พ.ศ. ๒๔๙๖ และจำเลยก็ยอมรับว่าเป็นโคตอนใช้งานมาแล้ว ๕ – ๖ ปี เมื่อซื้อแล้วก็นำไปไถนา ประกอบกับพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ พ.ศ. ๒๔๘๒ ซึ่งบัญญัติไว้สำหรับคุ้มครองกรรมสิทธิ์และป้องกันการลักสัตว์พาหนะ มาตรา ๘ ก็บังคับไว้ว่า โคที่ใช้งานได้แล้วให้นำไปจดทะเบียนทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณ เป็นการแสดงให้เห็นและจำเลยย่อมจะรู้อยู่ว่า โคของกลางต้องเป็นโคที่มีตั๋วพิมพ์รูปพรรณแล้ว การที่จำเลยจะซื้อโครายนี้ไว้โดยอ้างว่าไม่มีตั๋วพิมพ์รูปพรรณนั้น เป็นพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางไม่สุจริต จะยกขึ้นโต้แย้งกรรมสิทธิ์ของโจทก์ผู้เป็นเจ้าของไม่ได้ พิพากษายืน.

Share