คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2013/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่า “การกระทำผิดของเจ้าพนักงานอื่นใด” ตาม พ.ร.บ. สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 ม.15 (1) นั้นจะต้องเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติการในหน้าที่ แต่ปรากฎในคดีนี้ว่าจำเลยเป็นเพียงเจ้าพนักงานตำรวจมีหน้าที่แต่เฉพาะขับรถยนต์ของทางราชการเท่านั้นการที่จำเลยสมคบกับพวกขนย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายทางทะเลและพยายามนำออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงมิใช่เป็นการกระทำที่เกี่ยวกับการปฏิบัติการหรือละเว้นไม่ปฏิบัติการในหน้าที่ของจำเลยแต่ประการใด ความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วย ม.15 (1) แห่ง พ.ร.บ. สำรวจและห้ามกักกันข้าวที่แก้ไขดังกล่าว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นพลตำรวจขนย้ายข้าวสารออกนอกเขตห้ามขนย้ายทางทะเลและพยายามนำออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๙ ม.๖,๗ ประกาศเกี่ยวกับการสำรวจและห้ามกักกันต่าง ๆ พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด กับขอให้จ่ายเงินรางวัลและริบของกลาง
จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้ทำผิดตามฟ้อง
ศาลจังหวัดนราธิวาสพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๙ ม.๖ และ พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง พ.ศ. ๒๔๘๒ ม.๓,๙ ฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๔๙๐ ม.๓ ให้จำคุก ๑๒ ปี ตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๙ ม.๖ ของกลางตามบัญชีท้ายฟ้องให้ริบอันดับ ๑ ถึง ๑๐ นอกนั้นคืนเจ้าของ และให้จ่ายสินบนแก่ผู้นำจับกับเงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ผู้จับ
จำเลยอุทธรณ์ โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยควรมีความผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๙ ม.๗(๑) ซึ่งมีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยและโจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาคดีนี้แล้วเห็นว่าเหตุผลต่าง ๆ ตามฎีกาของจำเลยไม่เป็นทางให้ฝืนความจริงไปได้ ศาลทั้งสองฟังข้อเท็จจริงมาชอบด้วยรูปความแล้วฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น.
ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยมีความผิดตาม ม.๑๕(๑) แห่ง พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๙ ที่ใช้แทน ม.๑๕ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ ที่ยกเลิกโดยโจทก์เห็นว่าคำว่า “เจ้าพนักงานอื่นใด” ในมาตรานี้มีความหมายตลอดถึงเจ้าพนักงานเช่นจำเลยนี้ด้วยนั้น
ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำผิดของเจ้าพนักงานตาม ม.๑๕ ดังยกมากล่าวไว้ข้างบนจะต้องเป็นการปฏิบัติหรืละเว้นการปฏิบัติการในหน้าที่ แต่จำเลยนี้ปรากฎว่ามีหน้าที่เฉพาะแต่ขับรถยนต์ของทางราชการเท่านั้น การที่จำเลยกระทำผิดในเรื่องนี้มิได้เกี่ยวกับการปฏิบัติหรือการละเว้นการปฏิบัติการในหน้าที่ของจำเลยแต่ประการใด ความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติ ม.๑๕ (๑) แห่ง พ.ร.บ. สำรวจและห้ามกักกันข้าวที่แก้ไขดังที่โจทก์เข้าใจ ศาลทั้งสองวินิจฉัยมาถูกต้องแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น.
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์และจำเลย.

Share