คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 880/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ฎีกาเฉพาะเรื่องค่าเสียหายโดยยกเอาคำวินิจฉัยตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มาเป็นข้อบรรยายแล้วสรุปว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์เองเป็นทำนองว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์มีข้อความขัดแย้งกันเอง แต่ไม่มีข้อความบรรยายให้ปรากฏชัดว่าขัดแย้งในเรื่องใด เพราะเหตุใดจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคแรก

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบรถพิพาทคืนโจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาเป็นเงิน 20,000 บาท กับให้ชำระค่าเสียหาย 1,250 บาท รวมเป็นเงิน 21,250 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยทั้งสองชำระค่าเสียหาย อันเป็นค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถแก่โจทก์ 27,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้จำเลยที่ 1 ฎีกาเฉพาะเรื่องค่าเสียหาย ซึ่งในส่วนนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ตั้งแต่วันที่สัญญาเลิกกันจนถึงวันฟ้องเป็นเงิน 1,250 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายตั้งแต่วันผิดนัดจนถึงวันฟ้องแก่โจทก์และกำหนดค่าเสียหายเป็นเงิน 27,000 บาท จำเลยที่ 1 ฎีกาโดยยกเอาคำวินิจฉัยตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มาเป็นข้อบรรยายแล้วสรุปว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์เอง เป็นทำนองว่าคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์มีข้อความขัดแย้งกันเอง แต่ฎีกาของจำเลยที่ 1 ไม่มีข้อความบรรยายให้ปรากฏชัดว่าขัดแย้งในเรื่องใด เพราะเหตุใด ฎีกาของจำเลยที่ 1 จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249วรรคแรก ไม่ชอบที่จะรับไว้พิจารณา”
พิพากษายกฎีกาจำเลยที่ 1

Share