คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยไปร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวนกล่าวโทสพลตำหรวดว่ากะทำผิดต่อหน้าที่ราชการนั้น ไม่เปนความผิดถานหมิ่นประมาท จำเลยไห้การรับสารภาพแต่ได้แถลงรายละเอียดต่อไปอันเปนข้อต่อสู้นั้น จะถือว่าจำเลยรับตามข้อหาไม่ได้

ย่อยาว

โจทฟ้องขอไห้ลงโทษจำเลยตามกดหมายลักสนะอาณามาตรา ๘๘๒
จำเลยไห้การต่อสู้ว่าจำเลยได้นำความไปแจ้งเรียนต่อพนักงานสอบสวนกล่าวโทสพลตำหรวดเม้าที่จับกุมจำเลยหาว่าเล่าการพนันเบี้ยโบกและขู่เข็นเอาเงินจากจำเลยคนละ ๑๐ บาท ซึ่งความจิงจำเลยหาได้เล่นการพนันเบี้ยโบกดังพลตำหรวดเม้ากล่าวไม่ การที่จำเลยร้องเรียนต่อเจ้าพนักงานสอบสวนนั้นเปนความจิงซึ่งเปนการกล่าวโทสเจ้าพนักงานว่ากะทำผิดไนตำแหน่งหน้าที่ราชการและเปนการสแดงความชอบธัมของจำเลยที่จะกล่าวได้
ต่อมาสาลสอบถามจำเลยอีก จำเลยแถลงว่า ” ขอไห้การรับสารภาพตามฟ้องของโจททุกประการ และที่กล่าวนั้นเปนการกล่าวร้องเรียนต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งจำเลยมีความชอบธัมที่จะกล่าวได้ ” และยังได้แถลงรายละเอียดต่อไปอีกว่า “ได้ไปแจ้งความกล่าวหาพลตำหรวดเม้าต่อนายร้อยตำหรวดตรีพัธนจเริน เพื่อไห้ ร.ต.ต. พัธนจเรินฟ้องร้องเอาโทสพลตำหรวดเม้า ร.ต.ต.พัธนจเรินเปนหัวหน้าสถานีตำหรวดมีหน้าที่สอบสวนคดี”
โจทจำเลยแถลงไม่ติดไจสืบพยาน
สาลชั้นต้นและสาลอุธรน์พิพากสายกฟ้องโจทโดยเห็นว่ายังไม่เปนผิดถานหมิ่นประมาท
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่า แม้สาลจะจดคำแถลงของจำเลยไว้ไนเบื้องต้นว่า “ขอไห้การรับสารภาพตามฟ้องของโจททุกประการ”ก็ดี แต่ไนบันทัดต่อไปจำเลยได้แถลงรายละเอียดอันเปนข้อต่อสู้ของจำเลยซึ่งเปนการโต้แย้งฟ้องโจทหยู่ดังนี้ ต้องฟังว่าจำเลยมิได้ไห้การรรับสารภาพตามฟ้องโจท
ส่วนการที่จำเลยไปร้องเรียนต่อหัวหน้าสถานีตำหรวดซึ่งมีหน้าที่สอบสวนคดี กล่าวโทศพลตำหรวดเม้าว่ากะทำผิดต่อหน้าที่ราชการจะเปนผิดถานหมิ่นประมาทหรือไม่นั้น ตามรูปคดีเท่าที่ปรากตฟังได้ว่า ข้อความที่จำเลยกล่าวโทสนั้นมิไช่เปนความเท็ด จำเลยจึงมีอำนาดร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวนเพื่อฟ้องร้องลงโทสผู้กะทำผิดได้ ไม่มีโทสถานหมิ่นประมาทตามกดหมายลักสนะอาณามาตรา ๒๘๓(๑) พิพากสายืนตาม

Share