แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ พร้อมกับยื่นคำร้องขอยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่า โจทก์ได้อุทธรณ์เกี่ยวกับดอกเบี้ยที่ศาลกำหนดให้เป็นอุทธรณ์ดุลพินิจของศาลเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงมิใช่อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ ยกคำร้องแต่ให้ถือว่าเป็นการอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 และสั่งอุทธรณ์ว่ารับอุทธรณ์ โจทก์เห็นว่า โจทก์อุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์อาศัยสิทธิอะไรในการคิดและปรับอัตราดอกเบี้ยจากลูกค้าของโจทก์และจากจำเลยทั้งสอง ของศาลฎีกา โปรดมีคำสั่งให้ ศาลชั้นต้นส่งอุทธรณ์ของโจทก์ไปให้ศาลฎีกาพิจารณาต่อไปโปรดอนุญาต หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 39) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 99,202.74 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 16.5 ต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ค้างชำระเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ หากไม่ชำระให้บังคับจำนองที่ดินโฉนด เลขที่ 6251 ตำบลวังกะพี้ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง และยึดทรัพย์สินอื่นของ จำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้แก่โจทก์ จนครบถ้วน โจทก์อุทธรณ์ พร้อมกับยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์ โดยตรงต่อศาลฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 36,35) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 38)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว โจทก์อุทธรณ์ในปัญหาที่ว่า โจทก์มีสิทธิ คิดดอกเบี้ยและปรับอัตราดอกเบี้ยจากจำเลยทั้งสองตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยและประกาศธนาคารโจทก์เรื่อง อัตราดอกเบี้ยและส่วนลดเอกสารหมาย จ.12 ได้หรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย จึงให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องและอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาของโจทก์ไว้ดำเนินการ ต่อไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ วรรคหนึ่ง