แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เงินบำเหน็จตกทอดซึ่งทางราชการจ่ายให้แก่ทายาทของข้าราชการซึ่งถึงแก่ความตาย มิใช่มรดกของผู้ตาย
โจทก์เป็นผู้เยาว์ มารดาซึ่งเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมจะทำนิติกรรมที่มีผลให้ผู้เยาว์ต้องรับเป็นผู้ชำระหนี้ของบุคคลอื่นหรือแทนบุคคลอื่นไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
จำเลยเป็นเจ้าหนี้ผู้ตาย และได้รับเงินบำเหน็จตกทอดไปเป็นการชำระหนี้โดยมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมของโจทก์ให้ความยินยอมโดยมิได้รับอนุญาตจากศาลจึงไม่มีผลผูกพันโจทก์ผู้เยาว์ และถือได้ว่าเป็นการได้ซึ่งทรัพย์สินโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้และเป็นทางให้โจทก์เสียเปรียบ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกเงินคืนจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 406
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้เยาว์และเป็นบุตรมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดของพลตรีจักรชัย ศุภางคเสน ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2521 พลตรีจักรชัยถึงแก่กรรม โจทก์มีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดของพลตรีจักรชัยเป็นเงิน 71,475 บาท แต่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้พลตรีจักรชัยได้ทำหนังสือถึงกรมการเงิน กระทรวงกลาโหม ขอให้หักเงินบำเหน็จตกทอดของพลตรีจักรชัยเพื่อชำระหนี้ กรมการเงิน กระทรวงกลาโหมได้หักเงินบำเหน็จตกทอดที่จะตกได้แก่โจทก์ส่งให้แก่จำเลยเป็นเงิน 21,313 บาท โดยให้มารดาโจทก์ลงชื่อยินยอม การที่จำเลยได้เงินดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเงินบำเหน็จตกทอดมิใช่มรดก และมารดาโจทก์ให้ความยินยอมโดยมิได้ขออนุญาตต่อศาล ทั้งเป็นการได้รับเงินมาเพื่อชำระหนี้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ เป็นทางให้โจทก์เสียเปรียบ ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 21,313 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยตามกฎหมายให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยได้รับชำระหนี้จำนวน 21,313 บาท โดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมของโจทก์ได้ให้ความยินยอมแล้วและเป็นเรื่องระหว่างโจทก์จะว่ากล่าวกับมารดาเอง จำเลยไม่มีหน้าที่คืนเงินให้แก่โจทก์ ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานและวินิจฉัยว่า มารดาโจทก์ให้ความยินยอมให้จำเลยรับเงินบำเหน็จตกทอดซึ่งตกแก่โจทก์ไปเป็นเงิน 21,313 บาทโดยมิได้รับอนุญาตจากศาล จึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 จำเลยต้องคืนเงินให้แก่โจทก์ พิพากษาให้จำเลยคืนเงิน 21,313 บาทพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายให้แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มารดาโจทก์ได้ลงชื่อยินยอมให้กรมการเงินกระทรวงกลาโหมหักบำเหน็จตกทอดที่โจทก์มีสิทธิได้รับ ส่งชำระหนี้ของพลตรีจักรชัยให้แก่จำเลย เป็นการทำนิติกรรมที่มีผลให้ผู้เยาว์ต้องรับชำระหนี้ของบุคคลอื่นหรือแทนบุคคลอื่น ซึ่งผู้ใช้อำนาจปกครองจะกระทำมิได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล จึงเป็นการกระทำที่ปราศจากอำนาจไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ และแม้จำเลยจะมีมูลหนี้กับพลตรีจักรชัยก็ไม่ใช่มูลหนี้ที่มีอยู่กับโจทก์ จำเลยจึงไม่มีสิทธิบังคับเอาจากทรัพย์สินส่วนตัวของโจทก์ เงินบำเหน็จตกทอดมิใช่มรดกของพลตรีจักรชัย จำเลยจึงจะบังคับเอาจากเงินจำนวนนี้มิได้ การที่จำเลยรับเงินจำนวนดังกล่าวไว้จึงถือได้ว่าเป็นการได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้และเป็นทางให้โจทก์เสียเปรียบ โจทก์มีสิทธิเรียกเงินคืนจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 406
พิพากษายืน