คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 604/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา โจทก์จะอ้างแต่คำพะยานบุคคลในสำนวนคดีแพ่ง ซึ่งเป็นมูลกรณีเดียวกันและสืบเนื่องกันมายันแก่จำเลยแทนพะยานบุคคลที่จะมาเบิกความหาได้ไม่ เมื่อโจทก์อ้างแต่คำพะยานในสำนวนอื่นโดยไม่ติดใจสืบพะยานบุคคลแล้ว ก็เป็นอันไม่มีพะยานในสำนวน ดังนี้นับว่า คดีไม่มีมูล ศาลต้องยกฟ้อง.

ย่อยาว

โจทก์จำเลยในคดีนี้ ได้พิพาทกันเรื่องกรรมสิทธิที่ดินและโจทก์ได้มายื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาหาว่าบุกรุก และตัดฟันต้นมะขามเทศของโจทก์เสียหาย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๒๔,๓๒๗ ศาลชั้นต้นสั่งให้งดคดีอาญารอฟังผลคดีแพ่ง ศาลได้พิพากษาคดีแพ่งเสร็จแล้ว โจทก์ได้แถลงต่อศาลขอให้ศาลถือเอาสำนวนในคดีแพ่งเป็นส่วนหนึ่งของการไต่สวนในดคีอาญานี้ และโจทก์ไม่ติดใจขอให้ศาลไต่สวนพะยานอื่นอีก ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลที่จะฟ้องจำเลยในทางอาญาได้ พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์จะอ้างแต่คำพะยานบุคคลในสำนวนแพ่งมาใช้ยันแก่จำเลยแทนพะยานบุคคลที่จะมาเบิกความในการไต่สวนคดีอาญาหาได้ไม่ เพราะไม่ชอบด้วยวิธีไต่สวนคดีอาญาซึ่งศาลจะต้องฟังคำพะยานสำหรับคดีนั้น ๆ เมื่อโจทก์ไม่ติดใจสืบพะยานบุคคลด้วยแล้วก็เป็นอันไม่มีพะยานในสำนวน ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ตามฟ้อง จึงนับว่าคดีไม่มีมูล
พิพากษายืน

Share