คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีขอให้เปิดกั้นทางเดิน เมื่อจำเลยปิดกั้นทางเดิน จำเลยจะต้องแสดงให้ประจักษ์ว่าจำเลยมีสิทธิปิดกั้นเสียได้ คดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของหรือมีสิทธิอย่างใดเหนือที่ตอนพิพาทนั้น จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะปิดกั้นทางเดินนั้นได้.

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เคยเดินและพากระบือเดินผ่านทางพิพาทมา ๒๐ ปีเศษ บัดนี้จำเลยปิดทางพพาทเสีย จึงขอให้เปิดทางกว้าง ๑ ศอก
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยก็รับอยู่แล้วว่า โจทก์ได้ใช้ที่พิพาทเป็นทางเดินเสมอมา แต่ต่อสู้แต่เพียงว่า บัดนี้ โจทก์ทำความไม่พอใจให้แก่จำเลย ๆ จึงปิดเสีย โดยถือว่าทางนั้นเป็นแต่คันนากั้นเขตต์ที่นาระหว่างจำเลยกับที่ดินของนายตี๋ จำเลยไม่ได้กล่าวอ้างหรือยืนยันว่าจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินตอนที่พิพาทนี้แต่อย่างไรเลย เมื่อจำลยปิดกั้นทางเดิน จำเลยจะต้องแสดงให้ประจักษ์ว่าจำเลยมีสิทธิปิดกั้นทางเดินนั้นเสีย เมื่อฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของหรือมีสิทธิอย่างใดเหนือที่ตอนพิพาทนั้น จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะปิดกั้นทางเดินตอนนั้นได้
พิพากษายืน.

Share