แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย. ผู้ทำหน้าที่ทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องระบุว่า ลายมือชื่อผู้รับมอบอำนาจเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 และลายมือชื่อผู้แต่งทนายความในใบแต่งทนายความไม่ใช่ลายมือชื่อผู้รับมอบอำนาจ และในวันนัดพร้อม ย. ก็แถลงยืนยันว่าลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจและใบแต่งทนายความไม่ใช่ลายมือชื่อของ อ. ผู้รับมอบอำนาจ กับมี ธ.พี่สาวผู้รับมอบอำนาจแถลงว่า ลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจและใบแต่งทนายความเป็นของ ธ. ไม่ใช่ของ อ. การที่ศาลชั้นต้นฟังว่าลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจและใบแต่งทนายความไม่ใช่ของ อ. โดยไม่เรียก อ. มาสอบถามจึงชอบแล้ว
ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18 วรรคสอง เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รับฟ้องไว้แล้ว ภายหลังเห็นว่าคำฟ้องของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อโจทก์ ชอบที่ศาลชั้นต้นจะสั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวเสียก่อน หากโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจึงจะสั่งให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้รับฟ้องและสั่งใหม่เป็นไม่รับฟ้อง เมื่อหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีและแต่งตั้งทนายความไม่ถูกต้องการแต่งตั้งทนายความก็ไม่ถูกต้องไปด้วย ทนายความซึ่งลงลายมือชื่อในคำฟ้องจึงไม่มีอำนาจทำการแทนในฐานะทนายความของโจทก์ เท่ากับคำฟ้องไม่มีลายมือชื่อโจทก์ ศาลชั้นต้นจึงต้องสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวเสียก่อน การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งรับคำฟ้องและมีคำสั่งไม่รับฟ้องจึงไม่ชอบ
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้อง โจทก์มิได้อุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวทั้งโจทก์ยังได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องไว้ก่อนแล้ว แสดงว่าโจทก์พอใจคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฟ้องแล้ว จึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลฎีกาจะส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อจัดการให้มีการลงลายมือชื่อโจทก์ให้ถูกต้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18 วรรคสอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 84364 และ 84365 ตำบลวังทองหลาง อำเภอวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายเดือนละ 20,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินดังกล่าว
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
วันชี้สองสถาน โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองยื่นคำแถลงคัดค้าน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องและนัดพร้อมเพื่อสอบสวนเกี่ยวกับลายมือชื่อของผู้รับมอบอำนาจโจทก์
ต่อมาในวันนัดพร้อม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าลายมือชื่อในใบแต่งทนายความและหนังสือมอบอำนาจ มิใช่ลายมือชื่อของนางอนุษยา ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ จึงทำให้นายยุทธการ ไม่สามารถเป็นทนายความได้ ดังนั้น การที่นายยุทธการ ลงลายมือชื่อในคำฟ้อง ถือว่าไม่มีลายมือชื่อคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 67 (5) ประกอบมาตรา 18 การที่ศาลชั้นต้นรับฟ้อง เป็นการสั่งโดยผิดหลง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 จึงให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบจากเดิมที่มีคำสั่งรับคำฟ้อง เป็นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองประการแรกว่า การที่ศาลชั้นต้นฟังว่า ลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจไม่ใช่ของนางอนุษยา โดยไม่เรียกนางอนุษยา มาสอบถามนั้นชอบหรือไม่ เห็นว่า ในทางไต่สวนให้ได้ความจริงดังกล่าวเป็นดุลพินิจของศาลชั้นต้นว่าจะเรียกพยานมาสอบถามเพียงไรและคดีได้ความว่า นายยุทธการ ผู้ทำหน้าที่ทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ระบุว่า ลายมือชื่อผู้รับมอบอำนาจเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 และลายมือชื่อผู้แต่งทนายความในใบแต่งทนายความไม่ใช่ลายมือผู้รับมอบอำนาจและในวันนัดพร้อม นายยุทธการก็แถลงยืนยันว่าลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจและใบแต่งทนายความไม่ใช่ลายมือชื่อของนางอนุษยา ผู้รับมอบอำนาจกับได้มี นางธาริณี แถลงว่า นางธาริณีเป็นพี่สาวของผู้รับมอบอำนาจ ลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจและใบแต่งทนายความเป็นของนางธาริณีไม่ใช่ของนางอนุษยา ดังนี้ศาลชั้นต้นเชื่อว่า ลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจและใบแต่งทนายความไม่ใช่ของนางอนุษยา จึงชอบแล้วฎีกาข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ปัญหาประการต่อไปที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า เมื่อคำฟ้องของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อโจทก์ ศาลชอบที่จะสั่งให้แก้ไขเสียก่อนนั้น เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 วรรคสอง เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าคำฟ้องของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อโจทก์ ชอบที่ศาลชั้นต้นจะสั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวเสียก่อน หากโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจึงจะสั่งให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้รับฟ้องและสั่งใหม่เป็นไม่รับฟ้อง คดีนี้เมื่อหนังสือมอบอำนาจไม่ถูกต้อง การแต่งทนายความก็ไม่ถูกต้องไปด้วย ทนายความผู้นั้นจึงไม่มีอำนาจทำการแทนในฐานะทนายความของโจทก์ ซึ่งเท่ากับคำฟ้องไม่มีลายมือชื่อโจทก์ จึงชอบที่ศาลชั้นต้นจะสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวเสียก่อน การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งรับฟ้องและมีคำสั่งใหม่เป็นไม่รับฟ้องเสียทีเดียวเป็นการไม่ชอบ ฎีกาข้อนี้ฟังขึ้น แต่อย่างไรก็ดีเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องแล้ว โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้น ทั้งโจทก์เองก็ไม่มีความประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปโดยได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องไว้ก่อนแล้วแต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต แสดงว่าโจทก์พอใจในคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฟ้องแล้ว คดีจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อจัดการให้มีการลงลายมือชื่อโจทก์ให้ถูกต้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 วรรคสอง
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.