แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 วรรคสอง ได้บัญญัติไว้ว่า “สัญญาเช่าซื้อนั้นถ้าไม่ทำเป็นหนังสือ ท่านว่าเป็นโมฆะ”ย่อมมีความหมายว่าคู่สัญญาต้องลงลายมือชื่อในหนังสือสัญญาเช่าซื้อทั้งสองฝ่าย ถ้าฝ่ายใดมิได้ลงลายมือชื่อในหนังสือสัญญาจะถือว่าฝ่ายนั้นทำหนังสือสัญญาด้วยมิได้ เมื่อปรากฏว่าในวันออกเช็คพิพาททั้งสองฉบับโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อยังมิได้ลงลายมือชื่อในสัญญาเช่าซื้อให้ถูกต้อง คงมีแต่จำเลยผู้เช่าซื้อลงลายมือชื่อแต่ฝ่ายเดียว สัญญาเช่าซื้อดังกล่าวย่อมไม่มีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย แม้ ช. ผู้รับมอบอำนาจโจทก์จะมาลงลายมือชื่อในฐานะตัวแทนผู้ให้เช่าซื้อในภายหลังก็หามีผลย้อนหลังไม่ดังนั้น ในวันออกเช็คพิพาทแต่ละฉบับ จำเลยจึงไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกสิบล้อคันที่สองให้แก่โจทก์ตามสัญญาเช่าซื้อ เมื่อเช็คพิพาทแต่ละฉบับ จำเลยได้สั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้ค่าเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกสิบล้อทั้งสองคันตามสัญญาเช่าซื้อทั้งสองฉบับรวมกันเช็คพิพาทแต่ละฉบับจึงมีเงินค่าเช่าซื้อส่วนที่โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องบังคับให้จำเลยชำระรวมอยู่ด้วย จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่บังคับได้โดยชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของจำเลยย่อมขาดองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 4
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 2 เดือนรวมจำคุก 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องดังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาหรือไม่ ศาลฎีกาตรวจดูแล้วปรากฏว่าสำเนาสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย จ.5 คงมีแต่ตราประทับของโจทก์ ปรากฏอยู่ในช่องเจ้าของหรือผู้ให้เช่าซื้อเท่านั้น โดยกรรมการหรือตัวแทนผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อทำนิติกรรมเช่าซื้อแทนโจทก์มิได้ลงลายมือชื่อไว้ในช่องเจ้าของหรือผู้ให้เช่าซื้อในเอกสารดังกล่าวด้วย ส่วนสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย จ.16 ซึ่งเป็นเอกสารต้นฉบับของสำเนาเอกสารดังกล่าวมีลายมือชื่อนายเชิดชัย ลีสวรรค์ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ปรากฏอยู่คู่กับตราประทับของโจทก์ จึงเชื่อได้ว่านายเชิดชัยตัวแทนผู้มีอำนาจทำนิติกรรมเช่าซื้อแทนโจทก์เพิ่งมาลงลายมือชื่อในต้นฉบับหนังสือสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย จ.16 ภายหลังจากมีการไต่สวนมูลฟ้องคดีนี้แล้ว คดีจึงรับฟังได้ต่อไปว่าในวันออกเช็คหรือวันที่ลงในเช็คพิพาททั้งสองฉบับนั้นในสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย จ.16 ฝ่ายโจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าซื้อยังมิได้ลงลายมือชื่อในหนังสือสัญญาให้ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 วรรคสอง ได้บัญญัติไว้ว่า “สัญญาเช่าซื้อนั้นถ้าไม่ทำเป็นหนังสือ ท่านว่าเป็นโมฆะ” ตามบทบัญญัติดังกล่าวย่อมมีความหมายว่าคู่สัญญาต้องลงลายมือชื่อในหนังสือสัญญาเช่าซื้อทั้งสองฝ่ายถ้าฝ่ายใดมิได้ลงลายมือชื่อในหนังสือสัญญา จะถือว่าฝ่ายนั้นทำหนังสือสัญญาด้วยมิได้ เมื่อปรากฏว่าในวันออกเช็คพิพาททั้งสองฉบับ โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อยังมิได้ลงลายมือชื่อในสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย จ.16 ให้ถูกต้องคงมีแต่จำเลยผู้เช่าซื้อลงลายมือชื่อแต่ฝ่ายเดียวสัญญาเช่าซื้อดังกล่าวย่อมไม่มีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย แม้นายเชิดชัยผู้รับมอบอำนาจโจทก์จะมาลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวในฐานะตัวแทนผู้ให้เช่าซื้อในภายหลังก็หามีผลย้อนหลังไม่ ดังนั้น ในวันออกเช็คพิพาทแต่ละฉบับ จำเลยจึงไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกสิบล้อคันที่สองให้แก่โจทก์ตามสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย จ.16 คดีได้ความต่อไปอีกว่าเช็คพิพาทแต่ละฉบับ จำเลยได้สั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้ค่าเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกสิบล้อทั้งสองคันตามสัญญาเช่าซื้อทั้งสองฉบับรวมกัน ดังนั้น เช็คพิพาทแต่ละฉบับจึงมีเงินค่าเช่าซื้อส่วนที่โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องบังคับให้จำเลยชำระรวมอยู่ด้วยการออกเช็คพิพาทแต่ละฉบับดังกล่าวของจำเลยจึงถือไม่ได้ว่า เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่บังคับได้โดยชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของจำเลยย่อมขาดองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4 ศาลจึงไม่อาจลงโทษแก่จำเลยตามฟ้องได้ ปัญหาดังกล่าวแม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและยกฟ้องโจทก์เสียได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 215 และมาตรา 225 ปัญหาข้ออื่นตามฎีกาของโจทก์ไม่จำต้องวินิจฉัยอีกต่อไป เพราะไม่อาจมีผลเปลี่ยนแปลงผลของคำพิพากษานี้ได้ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน