คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในวันนัดสืบพยาน ทนายโจทก์ซึ่งมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างว่าป่วยเป็นไข้หวัดและปวดศีรษะโดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดง ดังนี้อาการป่วยดังกล่าวย่อมทำให้ทนายโจทก์ว่าความไม่ได้ดีเท่าที่ควร อาจทำให้คดีของโจทก์เสียหายได้ และจำเลยก็มิได้คัดค้าน จึงเป็นเหตุจำเป็นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 ที่จะให้เลื่อนคดีไปได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์โดยประมาทชนรถยนต์ซึ่งเอาประกันภัยไว้กับโจทก์เสียหายคิดเป็นเงิน 220,250 บาท โจทก์ได้ชำระให้ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว จึงรับช่วงสิทธิมาเรียกร้องจากจำเลยที่ 1 ผู้เป็นนายจ้าง และจำเลยที่ 2 ผู้รับประกันภัย
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้คดี
ถึงวันนัดสืบพยาน ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างว่าเป็นไข้หวัดศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ขอเลื่อนเพื่อจะยื่นบัญชีระบุพยาน จึงไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีให้นัดสืบพยานจำเลย ต่อมาจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบพยาน ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดี ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดีค่าฤชาธรรมเนียมให้ศาลชั้นต้นสั่งเมื่อพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา ขอให้พิพากษาตามศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘คดีมีปัญหาเพียงว่ามีเหตุสมควรให้โจทก์เลื่อนคดีตามคำร้องได้หรือไม่ คำร้องของทนายโจทก์มีว่าทนายโจทก์ป่วยเป็นไข้หวัด มีอาการไข้และปวดศีรษะ ขอเลื่อนการพิจารณาคดีไปสักนัดหนึ่ง ตามใบรับรองแพทย์ซึ่งแนบมามีข้อความว่า ป่วยเป็นไข้หวัดมีอาการปวดหัว น้ำมูกไหล ตามลักษณะในรายงานของแพทย์ เมื่อทนายโจทก์มีอาการปวดหัว ย่อมทำให้ว่าคดีไม่ได้ หรือไม่ได้ดีเท่าที่ควร อาจทำให้คดีของโจทก์เสียหายได้ และจำเลยก็มิได้คัดค้าน จึงเป็นเหตุจำเป็นตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 ศาลชอบที่จะสั่งเลื่อนคดีไปได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อพิพากษาใหม่’

Share