คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8695/2543

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ร้องแจ้งย้ายตนเองเข้าไปมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดยโสธรเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 90 วันแล้ว ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งจังหวัดยโสธร มิใช่ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ดอีกต่อไป การที่ผู้ร้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยอ้างว่ามีรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งจังหวัดร้อยเอ็ด จึงเป็นการมิชอบ นอกจากนี้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยโสธรประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ผู้ร้องสามารถแจ้งเหตุที่มิได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้แต่ผู้ร้องหาได้ปฏิบัติการตามที่กฎหมายกำหนดไม่ ผู้ร้องจึงตกเป็นผู้เสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
(คำสั่งศาลฎีกา)

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งรับสมัครผู้ร้องและประกาศให้ผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง

ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องเป็นผู้เสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

ศาลชั้นต้นได้สืบพยานแทนศาลฎีกาแล้ว

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปรากฏชื่อผู้ร้องอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาทั้งในจังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดยโสธร ผู้ร้องได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาประจำจังหวัดร้อยเอ็ด รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 105(3) กำหนดคุณสมบัติอย่างหนึ่งของบุคคลผู้มีสิทธิเลือกตั้งไว้ว่า ต้องเป็นผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้งผู้ร้องแจ้งย้ายตนเองเข้าไปมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเลขที่ 172 หมู่ที่ 3ถนนแจ้งสนิท ตำบลสำราญ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ตั้งแต่วันที่ 1ธันวาคม 2542 เมื่อนับถึงวันเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา คือวันที่ 4 มีนาคม2543 เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 90 วันแล้ว ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในเขตเลือกตั้งจังหวัดยโสธรไม่ใช่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตจังหวัดร้อยเอ็ดอีกต่อไป การที่ผู้ร้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่จังหวัดร้อยเอ็ด ในวันที่ 4 มีนาคม 2543 และ 29 เมษายน 2543 โดยอ้างว่ามีรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งจังหวัดร้อยเอ็ดจึงเป็นการมิชอบ นอกจากนี้เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยโสธรได้ประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ผู้ร้องสามารถแจ้งเหตุที่มิได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่จังหวัดยโสธรต่อบุคคลซึ่งคณะกรรมการเลือกตั้งแต่งตั้งได้ ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา แต่ผู้ร้องก็หาได้ปฏิบัติการตามที่กฎหมายกำหนดไม่ ผู้ร้องจึงเป็นผู้เสียสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 68 วรรคสองและมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2542”

จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง และให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดแก่ผู้ร้อง

Share