คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8663/2544

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้พระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ มาตรา 78 บัญญัติว่า ผู้ขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินจะต้องหยุดรถให้ความช่วยเหลือพร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงทันทีไม่ว่าจะเป็นความผิดของผู้ขับขี่หรือไม่ก็ตามนั้น หมายถึงว่าผู้ขับรถต้องเป็นผู้ควบคุมรถที่กำลังแล่นอยู่และมีความเสียหายเกิดขึ้น หาใช่กรณีผู้ขับรถที่จอดอยู่หรือหยุดอยู่ไม่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยหยุดรถในช่องเดินรถด้านซ้ายอยู่แล้ว โดยมีผู้โดยสารกำลังขึ้นรถ มิใช่ขับมาแล้วหยุดกระทันหัน การที่ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์มาด้วยความประมาทเฉี่ยวชนท้ายรถแท็กซี่ที่จำเลยขับ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ก่อความเสียหายอันจะต้องหยุดรถให้ความช่วยเหลือและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ มาตรา 78,160 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 91 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(3)(4)(8), 54, 55, 78, 148,157, 160

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(3)(4)(8), 54, 55,78, 148, 157, 160 วรรคแรก เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 4 ปี ฐานไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงทันที จำคุก 1 เดือน รวมจำคุก 4 ปี 1 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ข้อสุดท้ายว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 160 วรรคหนึ่งหรือไม่ เห็นว่า แม้พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 บัญญัติว่าผู้ขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินจะต้องหยุดรถให้ความช่วยเหลือพร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงทันทีไม่ว่าจะเป็นความผิดของผู้ขับขี่หรือไม่ก็ตามนั้น หมายถึงว่าผู้ขับรถต้องเป็นผู้ควบคุมรถที่กำลังแล่นอยู่ และมีความเสียหายเกิดขึ้น หาใช่กรณีผู้ขับรถที่จอดอยู่หรือหยุดอยู่ไม่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยหยุดรถในช่องเดินรถด้านซ้ายอยู่แล้ว โดยมีผู้โดยสารกำลังขึ้นรถ มิใช่ขับมาแล้วหยุดกะทันหัน การที่ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์มาด้วยความประมาทเฉี่ยวชนท้ายรถแท็กซี่ที่จำเลยขับ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ก่อความเสียหายอันจะต้องหยุดรถให้ความช่วยเหลือและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78, 160วรรคหนึ่ง ความนัยแห่งคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4405/2531 ระหว่างพนักงานอัยการศาลแขวงธนบุรี โจทก์ นายมนัส กสิวิริยะวงศ์ จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share