คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ก่อนเกิดเหตุ ท.ได้ให้ผู้ตายไปบอกจำเลยให้ขนย้ายบริวารออกไปจากที่ดินป่าชายเลนซึ่งเป็นที่ดินของทางราชการที่จำเลยปลูกบ้านอยู่ และที่ดินแปลงดังกล่าวทางราชการได้ให้บุคคลอื่นเช่าไปแล้ว โดยเสนอให้เงินจำเลยจำนวน 60,000 บาท โดยมี พ.กับนายดาบตำรวจ บ. ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจไปด้วย และบุคคลทั้งสามไม่มีอาวุธปืนติดตัว ผู้ตายยืนพูดกับจำเลยบริเวณหน้าประตูบ้านจำเลย ส่วน พ.และนายดาบตำรวจ บ. ยืนห่างผู้ตายประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นบริเวณนอกบ้านจำเลย ที่ดินที่จำเลยปลูกบ้านอยู่ก็มีบุคคลอื่นเช่าแล้ว จำเลยจึงอยู่อาศัยในที่ดินแปลงดังกล่าวโดยไม่มีสิทธิโดยชอบ การพูดจาระหว่างจำเลยกับผู้ตายน่าจะพูดถึงเงินจำนวน 60,000 บาท ที่เสนอให้ด้วย และการที่ พ.กับนายดาบตำรวจ บ. ไปด้วยก็เป็นการไปเป็นเพื่อนด้วยเท่านั้นดังนั้น จึงถือได้ว่าเป็นกรณีที่กระทำไปโดยสมควร ไม่มีลักษณะเป็นการข่มขู่แต่อย่างใด จึงไม่ถือว่าเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยาวลูกซอง ยิงผู้ตายหลายนัดเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยได้พร้อมอาวุธปืนยาวลูกซอง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุก 15 ปี มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 10 ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 72 ให้จำคุก 6 ปีมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามมาตรา 78 คงจำคุก 4 ปี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะหรือไม่ เห็นว่าก่อนเกิดเหตุนายทวีปได้ให้ผู้ตายไปบอกแก่จำเลยให้ขนย้ายบริวารออกไปจากที่ดินที่จำเลยปลูกอยู่ โดยเสนอให้เงินจำเลยจำนวน 60,000บาท ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของทางราชการ ซึ่งให้บุคคลอื่นเช่าไปแล้ว เมื่อจำเลยไปขอเช่าทางราชการจึงให้เช่าไม่ได้ โดยมีนายเพียวกับนายดาบตำรวจบุญเสริมซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจไปด้วยทั้งนี้บุคคลทั้งสามไม่มีอาวุธปืนติดตัวไป ผู้ตายยืนพูดกับจำเลยบริเวณหน้าประตูบ้านของจำเลย นายเพียวกับนายดาบตำรวจบุญเสริมยืนอยู่ด้วยกันห่างผู้ตายประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นบริเวณนอกบ้านจำเลยที่ดินที่จำเลยปลูกบ้านอยู่ก็มีบุคคลอื่นเช่าแล้ว จำเลยอยู่อาศัยในที่ดินแปลงดังกล่าวโดยไม่มีสิทธิโดยชอบที่นายเพียวกับนายดาบตำรวจบุญเสริมไปด้วย ก็น่าจะเป็นการไปเป็นเพื่อนมากกว่าและการพูดจาระหว่างผู้ตายกับจำเลยน่าจะมีการพูดถึงจำนวนเงิน 60,000บาท ที่เสนอให้ด้วยเช่นนี้น่าจะถือได้ว่าเป็นกรณีที่กระทำไปโดยสมควรไม่น่าจะมีลักษณะเป็นการข่มขู่แต่อย่างใด จึงไม่ถือว่าเป็นการข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะ ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share