คำสั่งคำร้องที่ 2524-2527/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลย เป็นปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า เช็คพิพาทฉบับที่ 6,7 และ 9เป็นเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายตามสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย ล.1เมื่อสัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดลง เช็คพิพาทฉบับที่ 6,7 และ 9จึงไม่เป็นเช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลย ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 180)
คดีทั้งสี่สำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 รวม 9 กระทง เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91จำคุกกระทงละ 2 เดือน รวมจำคุก 18 เดือน ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4 รวม 3 กระทง เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน รวมจำคุก 6 เดือน นอกจากที่แก้ คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 172)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 180)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเช็คพิพาทฉบับที่ 6,7และ 9 จำเลยสั่งจ่ายเป็นค่าเช่าซื้อล่วงหน้าก่อนสัญญาเช่าซื้อ สิ้นสุดลง จำเลยฎีกาว่า เช็คพิพาทฉบับที่ 6,7 และ 9 เป็นเช็คชำระหนี้ค่าเช่าซื้อหลังจากสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย ล.1ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงเป็นฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share