คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คนใบที่ไม่สามารถจะทำให้เจ้าพนักงานเข้าใจความประสงค์ที่จะทำนิติกรรมได้นั้น เมื่อผู้พิทักษ์ร้องขอต่อศาล ขอเป็นผู้พิทักษ์ และจัดการจำนองหรือขายที่ดินของคนใบ้เพื่อชำระหนี้คนใบ้ จนได้รับอนุญาตจากศาลแล้ว ผู้พิทักษ์ก็จัดการจำนองหรือขายฝากที่ดินแทนได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการขายฝากที่ดินของนายแกละ นางพลอยลูกหนี้ตามคำพิพากษาโดยอ้างว่านายเลี่ยมจำเลยผู้พิทักษ์ของลูกหนี้ทำนิติกรรมขายฝากแก่นางสอาดจำเลย โดยลูกหนี้มิได้มอบอำนาจให้นางเลี่ยมไปทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้เพิกถอนนิติกรรมการขายฝาก
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่า ปรากฎตามสำนวนคดีแดงที่ ๒๙๐/๒๔๗๘ ว่านางเลี่ยมได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา อ้างว่า นางพลอย น.ส.เปลี่ยนและนายแกละ ผู้เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ ๑๙๒ เป็นใบ้ไม่สามารถจะทำให้เจ้าพนักงานเข้าใจความประสงค์ที่จะทำนิติกรรมได้จึงขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้พิทักษ์และทำการจำนองหรือขายที่ดินโฉนดที่ ๑๙๒ เพื่อชำระหนี้คนใบ้ทั้ง ๓ ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราไต่สวนแล้ว มีคำสั่งว่าคนใบ้ทั้ง ๓ เป็นคนเเสมือนไร้ความสามารถให้อยู่ในความพิทักษ์นางเลี่ยม ในอันจะจัดการจำนองหรือขายที่ดินโฉนดที่ ๑๙๒ ต่อไปได้ตามคำร้อง นางเลี่ยมจึงได้ไปทำนิติกรรมจำนองที่แปลงนี้แก่นางสาวกิมลี้ แล้วไถ่ถอนจากนางสาวกิมลี้ มาขายฝากแก่นางสอาด เพราะนางนาวกิมลี้เร่งรัดหนี้จำนองกรณีเป็นเช่นนี้ จึงเป็นที่เห็นได้ว่า นิติกรรมที่นางเลี่ยมได้กระทำไปมิได้ทำนอกเหนือแต่อย่างใด หากทำไปเนื่องจากคำสั่งศาลที่สั่งอนุญาตไว้ในคดีแดงที่ ๒๙๐/๒๔๗๘ จะถือว่าเป็นโมฆะไม่ได้ จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share