แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การปลอมตั๋วรถไฟก็มีบัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้โดยเฉพาะในมาตรา 217 ความผิดของจำเลยในประเภทดังกล่าวไม่อยู่ในความประสงค์ของมาตรา 225
ทรัพย์สินหรือราคาที่อัยการจะเรียกแทนผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43 ต้องเป็นทรัพย์สินหรือราคาที่แท้จริงแห่งทรัพย์สินที่สูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิดดังกำหนดไว้นั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นคนการรายวันขององค์การรถไฟ จำเลยทำผิดกฎหมายหลายกระทง คือ บังอาจลักตั๋วรถไฟชนิดบางสำหรับเขียนข้อความจำหน่ายแก่สาธารณชน ซึ่งอยู่ในความดูแลของนายกระจ่างไป 1 เล่ม จำเลยบังอาจปลอมตั๋วที่จำเลยลักมานั้นแล้วจำหน่ายให้แก่ผู้โดยสารรถไฟนายกระจ่างต้องรับผิดชอบจ่ายเงินให้แก่องค์การรถไฟไทยสำหรับตั๋วที่หายเป็นเงิน 10,132 บาท 50 สตางค์ เหตุเกิดที่ตำบลทับกฤชอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 294, 217, 222, 223, 224, 225 และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2477 ฉบับที่ 5 มาตรา 3 และให้ใช้ราคาตั๋วที่หาย 10,132 บาท 50 สตางค์ แก่นายกระจ่าง
จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นสืบพยานประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้วเห็นว่าตั๋วบางตามฟ้องไม่ใช่หนังสือสำคัญและไม่ใช่หนังสือราชการ การกระทำของจำเลยไม่เข้าเกณฑ์มาตรา 217 เพราะจะต้องประกอบด้วยเจตนาที่จะใช้เป็นตั๋วที่มีราคาสูงกว่าราคาที่แท้จริง แต่ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏเช่นนั้น พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 294, 223 ให้รวมกระทงลงโทษจำคุก 3 ปี ลดฐานปรานีคงจำคุก 1 ปี 6 เดือน ให้จำเลยใช้เงิน 10,132 บาท50 สตางค์แก่นายกระจ่างด้วย
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมตั๋วรถไฟและปลอมหนังสือสำคัญในราชการตามมาตรา 217, 225 อีกกระทงหนึ่ง
ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่าตั๋วชนิดนี้ไม่ใช่หนังสือสำคัญหรือหนังสือราชการ แต่ที่จำเลยปลอมเป็นตั๋วรถไฟนั้นต้องมีความผิดตามมาตรา 217 ด้วย ส่วนค่าเสียหายในคดีนี้ไม่ใช่ราคาทรัพย์ที่แท้จริงที่จำเลยลักไป อัยการไม่มีอำนาจฟ้องแทนผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 294 พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 294, 223 และ 217 ให้รวมกระทงลงโทษจำคุก 3 ปี ลดฐานปรานี คงจำคุก 1 ปี 6 เดือนค่าเสียหายที่โจทก์ขอให้ยกเสีย
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 225 ฐานปลอมหนังสือสำคัญในราชการ และให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย
ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยปลอมตั๋วรถไฟ ซึ่งมีกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 217 บัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้โดยตรงศาลอุทธรณ์ก็ลงโทษตามนี้แล้ว ความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยมาตรา 225 ส่วนค่าเสียหายที่นายสถานีจะต้องใช้ให้การรถไฟตามระเบียบไม่ใช่เป็นราคาทรัพย์ซึ่งถูกจำเลยลักโดยแท้จริง อัยการไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ใช้เงินจำนวนนี้แก่ผู้เสียหาย
พิพากษายืน