คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 750/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ขุดทางน้ำจากฉลองผ่านชานคลองเก่าอันเป็นที่สาะารณะมาสู่ที่โจทก์และใช้ประโยชน์ตลอดมา แล้วต่อมาภายหลังจำเลยได้เข้ายึดถือที่สาธารณะนั้น จำเลยย่อมไม่มีสิทธิไปปิดกั้นทางน้ำนั้นได้เมื่อจำเลยไปขุดดินปิดเข้าก็ย่อมเป็นการละเมิด

ย่อยาว

คดีนี้ พิพาทกันเกี่ยวกันที่ดินนอกโฉนดโจทก์ซึ่งจำเลยครอบครองอยู่โจทก์ว่าเป็นที่ดินสาธารณะเคยใช้พักสัตว์พาหนะและขุดทางน้ำซักน้ำจากคลองสำโรงเข้านาโจทก์ เมื่อ ๒-๓ ปีมานี้จำเลยได้ขุดดินปิดกั้นหน้าที่ดินโจทก์ ทำให้โจทก์ไม่มีที่พักสัตว์พาหนะและไม่มีทางน้ำให้เรือเข้าออกที่โจทก์ จึงขอให้ทำลายคันดินที่จำเลยปิดกั้น
จำเลยต่อสู้ว่ามิใช่ที่สาธารณะจำเลยซื้อมาจากผู้ที่มีชื่อ และครอบครองมาประมาณ ๑๐ ปีแล้วไม่มีส่วนใดที่โจทก์ใช้เป็นที่พักสัตว์พาหนะ และโจทก์ไม่เคยขุดทางน้ำหรือทางเรือ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยรื้อหรือทำลายคันดินที่ปิดทางน้ำให้โจทก์ใช้ประโยชน์ได้ตามเดิม
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า ที่พิพาทเป็นที่สาธารณะมาก่อน แล้วจำเลยเข้าครอบครองโดยซื้อต่อจากผู้อื่นเดิมโจทก์เคยขุดทางน้ำจากคลองสำโรงเข้ามาไว้ใช้ประโยชน์สู่ที่ดินโจทก์ จำเลยเพิ่งมาถมปิด เห็นว่าจำเลยไม่มีสิทธิปิดกั้นทางน้ำนั้นได้ เป็นการละเมิด จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share