แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยตั้งแต่ 3 คน ขึ้นไป มีอาวุธแสดงกิริยาขู่ ทำให้เจ้าทรัพย์กลัว และมอบทรัพย์ให้มีผิดฐานปล้น
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ก. เจ้าทรัพย์กำลังตกเบ็ดอยู่ ขณะนั้น จำเลยกับพวกถืออาวุธมาร้องเรียก ก. ให้ไปหาแล้วพูดว่าวันนี้มีพรรคพวกมามาก ขอสุกรสักตัวหนึ่ง ก. ตอบว่ามีแต่ตัวเล็ก ๆ พวกของ จำเลยคนหนึ่งพูดว่าตัวใหญ่ ๆ ก็ดี แล้วอีกคนหนึ่งพูดว่า ” ยังไงจะให้ฤาไม่ให้ วันนี้ให้ก็เอาไม่ให้ก็เอา ” ก. กลัวจึงพูดว่า ” จะเอาก็เอา ” แล้ว จำเลยกับพวกก็ให้ ก. นำไปเอาสุกรที่บ้าน ก. ๑ ตัว เมื่อได้แล้ว ง. จำเลยได้พูดขู่ ก. ให้ปกบิดเหตุนั้นและสอน ก. ว่าให้บอกแก่ผู้อื่นว่าซื้อไปเปนราคา ๑๓ บาท ถ้าขืนบอกว่ามาขู่ฤามาขอเอาสุกรแล้ว จะให้คนป่ามายิง แล้ว จำเลยกับพวกก็ช่วยกันหามเอาสุกรไป
ศาลเดิมพิพากษาว่า จำเลยมีผิดตาม ม. ๒๙๔ ตอน ๔ ฐานลักสุกรในเวลาค่ำคืนโดยมีพรรคพวกแลมีสาตราวุธ และประกอบด้วยเหตุผลร้ายแรงเกือบถึงลักษณชิงทรัพย์ฤาปล้นทรัพย์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีผิดฐานปล้นตาม ม. ๓๐๑ ตามนัยฎีกาที่ ๕๖๖ – ๕๖๗ – ๕๖๘/๒๔๖๕
ศาลฎีกาพิพากษายืนตาม ศาลอุทธรณ์