คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8580/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นลูกจ้างของโจทก์ร่วมซึ่งได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยทั้งสองคดี โดยจำเลยถือโอกาสที่เป็นลูกจ้างลักทรัพย์ของโจทก์ร่วมไป แม้ทรัพย์ที่จำเลยลักในคดีนี้มีประเภทของทรัพย์มากกว่าทรัพย์ที่จำเลยลักในคดีเดิมของศาลชั้นต้นก็ตาม แต่ลักษณะแห่งคดีและความผิดเป็นอย่างเดียวกัน ทั้งการกระทำความผิดคดีนี้มีช่วงระยะเวลาบางช่วงที่จำเลยกระทำความผิดอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับคดีดังกล่าว คดีนี้และคดีดังกล่าวจึงมีความเกี่ยวพันกันจนอาจฟ้องเป็นคดีเดียวกันได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 160 วรรคหนึ่ง การนับโทษต่อต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 188, 335 กับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน 5,753,287.50 บาท แก่ผู้เสียหาย และนับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4969/2553 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ แต่ก่อนสืบพยานโจทก์ จำเลยขอถอนคำให้การเดิมและให้การใหม่เป็นรับสารภาพ
ระหว่างพิจารณา บริษัทไรตันล็อค มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
โจทก์ร่วมยื่นคำร้องว่า โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยคืนหรือชดใช้เฉพาะต้นเงินแก่โจทก์ร่วม โจทก์ร่วมจึงขอให้บังคับจำเลยชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 5,753,287.50 บาท นับแต่วันกระทำความผิดจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ร่วม
จำเลยไม่ให้การในส่วนแพ่ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188, 335 (11) วรรคแรก การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นและฐานลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกกระทงละ 2 ปี รวม 78 กระทง ฐานลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง จำคุกกระทงละ 2 ปี รวม 98 กระทง จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกกระทงละ 1 ปี เป็นจำคุก 176 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงให้จำคุก 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2) ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน 5,753,287.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินและนับแต่วันที่ที่จำเลยลักทรัพย์ไปในแต่ละครั้งตามฟ้องแก่โจทก์ร่วม คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้หักวันที่จำเลยถูกคุมขังในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4969/2553 ของศาลชั้นต้น ก่อนที่จำเลยจะถูกคุมขังในคดีนี้ออกจากโทษจำคุกตามคำพิพากษาในคดีนี้ให้จำเลยด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ร่วมว่า ที่ศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4969/2553 ของศาลชั้นต้นชอบหรือไม่ โดยโจทก์ร่วมฎีกาว่า การกระทำความผิดคดีนี้และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4969/2553 ของศาลชั้นต้นเป็นการกระทำต่างวาระและต่างเวลากัน โดยมีเจตนาลักทรัพย์แยกต่างหากจากกัน ทั้งคดีนี้จำเลยลักทรัพย์ของโจทก์ร่วมหลายประเภทมากกว่าคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4969/2553 ของศาลชั้นต้น หลังจากที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4969/2553 ของศาลชั้นต้น โจทก์ร่วมจึงพบการกระทำความผิดคดีนี้ ทำให้ไม่อาจแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มและพนักงานสอบสวนไม่อาจสอบสวนเพิ่มเติมได้ โจทก์จึงไม่อาจนำความผิดคดีนี้ไปฟ้องรวมกับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4969/2553 ของศาลชั้นต้นได้ พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมคดีนี้กับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4969/2553 ของศาลชั้นต้น เป็นพยานหลักฐานคนละชุดกัน การกระทำของจำเลยคดีนี้และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4969/2553 ของศาลชั้นต้น จึงไม่เกี่ยวเนื่องกันและไม่เกี่ยวพันกันนั้น เห็นว่า ขณะที่จำเลยกระทำความผิดคดีนี้และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4969/2553 ของศาลชั้นต้น จำเลยเป็นลูกจ้างของโจทก์ร่วมซึ่งได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยทั้งสองคดี โดยจำเลยถือโอกาสที่เป็นลูกจ้างโจทก์ร่วมกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ โดยมีเจตนาลักทรัพย์ของโจทก์ร่วมไป แม้ทรัพย์ที่จำเลยลักในคดีนี้มีประเภทของทรัพย์มากกว่าทรัพย์ที่จำเลยลักในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4969/2553 ของศาลชั้นต้นก็ตาม แต่ลักษณะแห่งคดีและความผิดเป็นอย่างเดียวกัน พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมจึงน่าจะเป็นชุดเดียวกัน ส่วนที่โจทก์ร่วมอ้างว่า พบการกระทำความผิดคดีนี้ในภายหลัง ข้อเท็จจริงปรากฏในสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4696/2553 ของศาลชั้นต้นว่าโจทก์ร่วมแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2553 อันเป็นเวลาหลังจากที่โจทก์อ้างว่าจำเลยกระทำความผิดคดีนี้ ทั้งการกระทำความผิดคดีนี้มีช่วงระยะเวลาบางช่วงที่จำเลยกระทำความผิดในช่วงระยะเวลาเดียวกันกับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4696/2553 ของศาลชั้นต้น เชื่อว่าโจทก์ร่วมพบการกระทำความผิดคดีนี้ก่อนแจ้งความร้องทุกข์ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4696/2553 ของศาลชั้นต้นแล้ว ซึ่งโจทก์ร่วมต้องแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในครั้งเดียว เพื่อให้โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทุกกระทงความผิดเป็นสำนวนเดียวกัน ดังนี้ คดีนี้และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4696/2553 ของศาลชั้นต้น จึงมีความเกี่ยวพันกันจนอาจฟ้องเป็นคดีเดียวกันได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 160 วรรคหนึ่ง การนับโทษต่อจึงต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2) กล่าวคือ เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงแล้วจะเกินกว่า 20 ปี ไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share