แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ครั้งแรกจำเลยต้องโทษฐานทำร้ายร่างกาย ตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 254 ศาลจำคุก 15 วัน ปรับ 20 บาท โทษจำคุกรอการลงอาญาไว้ครั้งที่สอง ต้องโทษฐานชิงทรัพย์แต่หลบหนีการควบคุม มากระทำผิดฐานชิงทรัพย์อีกเป็นครั้งที่สามได้ยกเอาโทษจำคุกที่รอไว้ในครั้งแรกมาลงแก่จำเลยด้วย แต่จำเลยก็ยังไม่ได้พ้นจากโทษจำคุกนั้นไปจึงจะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 ในความผิดครั้งที่สามไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ฐานชิงทรัพย์และมีสันดานเป็นผู้ร้าย กับขอให้เพิ่มโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ข้อขอให้กักกันให้ยกเสีย และที่ขอให้เพิ่มโทษปรากฏว่า ครั้งแรกจำเลยต้องโทษฐานทำร้ายร่างกาย ตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา ๒๕๔ ศาลจำคุก ๑๕ วัน ปรับ ๒๐ บาท โทษจำคุกรอการลงอาญาไว้ครั้งที่สอง ต้องโทษฐานชิงทรัพย์แล้วหลบหนีมากระทำผิดคดีนี้เห็นว่าเพิ่มโทษไม่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ปัญหาข้อเพิ่มโทษ
ศาลฎีกา เห็นว่า โทษของจำเลยครั้งแรกหากจำเลยได้ชำระค่าปรับแล้วก็ดี จะว่าพ้นโทษครั้งนั้นไปแล้วยังไม่ได้ เพราะยังมีโทษจำคุกที่ให้รอการลงอาญาอยู่อีก และแม้ว่าศาลจะยกเอาโทษจำคุกมาลงแก่จำเลยในครั้งที่ ๒ แล้ว แต่จำเลยก็ยังมิได้พ้นจากโทษจำคุกนั้น จึงไม่มีทางจะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา ๗๒ ได้พิพากษายืน