คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2473

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เรือพ่วงมากับเรือกลไฟถือว่าอยู่ในสภาพของเรือที่เดิรด้วยเครื่องจักร์กล วิธีพิจารณาแพ่ง หน้าที่นำสืบของเรือพ่วงกับเรือกลไฟ ประเด็นเมื่อจำเลยปฏิเสธความเลินเล่อ ย่อมมีหน้าที่สืบข้อความใด ๆ ที่จะสนับสนุนประเด็นได้ พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ปัญหากฎหมาย ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงผิดจากที่ปรากฏในสำนวน เปนปัญหากฎหมาย

ย่อยาว

เรือกลไฟ “อิยิปต์” ของ ม. จำเลยที่ ๒ ซึ่ง ล. จำเลยที่ ๑ เปนนายท้ายได้เกิดโดนเรือโจทก์ซึ่งพ่วงมากับเรือกลไฟ “เพาะเกษมอิสลาม”
ศาลต่างประเทศฟังว่าเรือ “อิยิปต์” เลินเล่อให้ใช้ค่าเสียหาย
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าเรือ “อิยิปต์” ไม่ใช่เปนฝ่ายที่ผิด เพราะเปนการพ้นวิสัยของเรืออิยิปต์ที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนกันได้ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาปัญหากฎหมายว่า (๑) ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีคำพะยานในสำนวนประกอบ (๒) ตัดสินขัดกับประมวลแพ่ง ม.๔๒๒- ๔๓๗
ศาลฎีกาเห็นว่าที่โจทก์อ้าง ม.๔๒๒ ก็โดยเหตุว่า เมื่อขณะเรือโดนกันจำเลยที่ ๑ ยังไม่ได้ต่อใบอนุญาต ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะต้องยก ม.๔๒๒ ขึ้นวินิจฉัยนั้น เรื่องนี้ปรากฏว่าเมื่อเรือเกิดโดนกันขึ้นแล้วจำเลยที่ ๑ ได้ไปต่อใบอนุญาต และเจ้าพนักงานก็ไม่ได้สลักหลังข้อความผิดใด ๆ หรือเรียกใบอนุญาตคืนจะสันนิษฐานเอาว่านายท้ายไม่มีความสามารถเหมาะสมแก่หน้าที่ไม่ได้ ส่วนข้อที่โจทก์อ้างว่าเรือของโจทก์เปนเรือที่พ่วงไม่มีเครื่องจักรกลไก ควรยก ม.๔๓๗ ขึ้นวินิจฉัย นั้น เห็นว่าเรือโจทก์อยู่ในอำนาจของเรือกลไฟที่โยง ย่อมอยู่ในสภาพคล้ายกับเรือจำเลยซึ่งเดิรด้วยกำลังเครื่องจักร์กล และข้อที่โจทก์เถียงว่าไม่ควรรับฟังว่าเรือของโจทก์ปัดมาข้าง ๆ เพราะจำเลยไม่ได้กล่าวแก้มาในคำให้การนั้น เห็นว่าเรื่องนี้จำเลยปฏิเสธความประมาทเลินเล่อ และความรับผิด ย่อมจะสืบข้อความใด ๆ ที่จะสนับสนุนข้อปฏิเสธของตนได้ แต่เรื่องนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีพะยานสนับสนุน ศาลฎีกามีอำนาจทึ่จะตรวจดูข้อเท็จจริงใหม่ และตัดสินยืนตามศาลเดิมว่าเรือของจำเลยเปนฝ่ายที่ผิด

Share