คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การริบทรัพย์สินอันเนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ฯมีบัญญัติไว้ในมาตรา74และมาตรา74ทวิ
ยานพาหนะซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา11,48,54หรือ69มีบัญญัติไว้ในมาตรา74ทวิ
การมีเปลือกไม้สีเสียดอันเป็นของป่าหวงห้ามไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนดอันมิใช่การกระทำอันเป็นความผิดตามมาตรา11,48,54และ69รถยนต์ของกลางซึ่งใช้เป็นยานพาหนะจึงไม่อยู่ในข่ายอันจะพึงริบได้ตามมาตรา74ทวิทั้งจะริบรถยนต์ของกลางตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา33ก็ไม่ได้เพราะรถยนต์ของกลางมิใช่ทรัพย์ซึ่งจำเลยได้ใช้หรือไม้ไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดความผิดของจำเลยอยู่ที่การไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งห้าร่วมกันมีเปลือกไม้สีเสียดอันเป็นของป่าหวงห้ามไว้ในครอบครองจำนวน 2,000 กิโลกรัมซึ่งเกินปริมาณที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนดไว้มิให้เกินกว่า 30 กิโลกรัม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งไม้สีเสียดจำนวนดังกล่าว มีผู้นำเจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งห้าได้พร้อมเปลือกไม้สีเสียดดังกล่าวและรถยนต์บรรทุก 6 ล้อซึ่งได้ใช้เป็นยานพาหนะอุปกรณ์ในการกระทำความผิดเป็นของกลางขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4, 27, 28, 29,29 ทวิ, 70, 71 ทวิ, 74, 74 จัตวา ฯลฯ ริบของกลาง และจ่ายสินบนนำจับ

จำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯและประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ฐานมีของป่า จำคุกและปรับ ฐานช่วยซ่อนเร้นจำคุกและปรับ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 2 เดือน ปรับคนละ 200 บาท โทษจำคุกให้รอไว้คนละ 1 ปี ริบของกลาง จ่ายสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ขอให้คืนของกลาง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การริบทรัพย์สินอันเนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มีบัญญัติไว้ในมาตรา 74 และมาตรา 74 ทวิซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18โดยเฉพาะของกลางที่เป็นยานพาหนะ ได้มีบัญญัติไว้ในมาตรา 74 ทวิว่า “บรรดาเครื่องมือ เครื่องใช้ สัตว์พาหนะ ยานพาหนะ หรือเครื่องจักรกลใด ๆ ซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา 11 มาตรา 48 มาตรา 54 หรือมาตรา 69ให้ริบเสียทั้งสิ้นไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่” เห็นว่า การกระทำความผิดตาม มาตรา 11, 48, 54 และ 69 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการกระทำต่อไม้หวงห้าม การแปรรูปไม้ การทำลายป่าและการมีไม้หวงห้ามซึ่งบัญญัติถึงการกระทำแต่ลักษณะของการกระทำความผิดที่บัญญัติไว้ในแต่ละมาตราดังกล่าว สำหรับกรณีนี้ การมีเปลือกไม้สีเสียด อันเป็นของป่าหวงห้ามไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนดอันมิใช่การกระทำอันเป็นความผิดตามมาตรา 11, 48, 54 และ 69 รถยนต์ของกลางซึ่งใช้เป็นยานพาหนะจึงไม่อยู่ในข่ายอันจะพึงริบได้ตามมาตรา 74 ทวิทั้งจะริบรถยนต์ของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ก็ไม่ได้ เพราะรถยนต์ของกลางมิใช่ทรัพย์ซึ่งจำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดความผิดของจำเลยอยู่ที่การไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เท่านั้น

พิพากษาแก้เป็นว่า เฉพาะรถยนต์ของกลางไม่ริบ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share