แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ป.พ.พ. มาตรา 1246 (6) (เดิม) บัญญัติว่า “ถ้าบริษัทหรือผู้ถือหุ้นหรือเจ้าหนี้ใด ๆ ของบริษัทรู้สึกว่าต้องเสียหายมิเป็นธรรมเพราะการที่บริษัทถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนนั้นไซร้ เมื่อบริษัทหรือผู้ถือหุ้นหรือเจ้าหนี้ยื่นคำร้องต่อศาล และศาลพิจารณาได้ความเป็นที่พอแก่ใจว่าขณะที่ขีดชื่อบริษัทจากทะเบียนนั้นบริษัทยังทำการค้าขายหรือยังประกอบการงานอยู่ก็ดี หรือมิฉะนั้นเห็นเป็นการยุติธรรมในการที่จะให้บริษัทนั้นได้กลับคืนขึ้นทะเบียนก็ดี ท่านว่าศาลจะสั่งให้กลับจดชื่อบริษัทคืนเข้าสู่ทะเบียนก็ได้…” เมื่อปรากฏเหตุว่ามีการนำที่ดินที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตให้จัดสรรที่ดินว่าให้ใช้เพื่อสร้างโรงเรียนอนุบาลและบ่อบำบัดน้ำเสียของหมู่บ้าน แต่บริษัท ธ. ผู้รับโอนที่ดินดังกล่าวไม่ดำเนินการ ทั้งนำที่ดินไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น ผู้ร้องซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดินในการที่จะบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดินและปรากฏว่าในหมู่บ้านดังกล่าวยังมิได้มีการดำเนินการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ผู้ร้องในฐานะหน่วยงานของรัฐจึงมีสิทธิเรียกร้องให้บริษัท ธ. ปฏิบัติหน้าที่ตามใบอนุญาตให้จัดสรรที่ดินเพื่อประโยชน์สาธารณะ ผู้ร้องจึงมีสถานะเสมือนหนึ่งเป็นเจ้าหนี้มีอำนาจยื่นคำร้องตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวข้างต้นได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นนิติบุคคลมีฐานะเป็นกรม สังกัดกระทรวงมหาดไทย มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนสิทธินิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายอื่น มีอธิบดีกรมที่ดินเป็นผู้กระทำการแทน ผู้ร้องได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าของบ้านและผู้พักอาศัยในหมู่บ้านปั้นทอง 3 และหมู่บ้านกรุงสยาม (อินทรารมย์) ว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดขวัญนครก่อสร้าง ผู้ดำเนินการจัดสรรที่ดินไม่บำรุงรักษาสาธารณูปโภคทำให้ได้รับความเดือดร้อน ผู้ร้องตรวจสอบแล้วจึงแจ้งให้บริษัทธนทวีวิวัฒน์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวดำเนินการตามมติของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้ซื้อที่ดินจัดสรรกรุงเทพมหานคร แต่พบว่าเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2547 นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครได้ขีดชื่อบริษัทธนทวีวิวัฒน์ จำกัด ออกจากทะเบียนเป็นบริษัทร้างแล้ว ทำให้ผู้ร้องไม่สามารถแจ้งให้บริษัทปฏิบัติตามมติของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้ซื้อที่ดินจัดสรรกรุงเทพมหานครได้ จึงขอให้มีคำสั่งจดชื่อบริษัทธนทวีวิวัฒน์ จำกัด คืนเข้าสู่ทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1246 (เดิม)
ศาลประกาศตามระเบียบและส่งสำเนาให้นายทะเบียนแล้ว ไม่มีผู้คัดค้าน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า ทางไต่สวนได้ความจากพยานหลักฐานของผู้ร้องว่า ผู้ร้องเป็นนิติบุคคลมีฐานะเป็นกรมสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนสิทธินิติกรรม เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2548 ผู้ร้องได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าของบ้านและผู้พักอาศัยในหมู่บ้านปั้นทอง 3 และหมู่บ้านกรุงสยาม (อินทรารมย์) ว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดขวัญนครก่อสร้างผู้จัดสรรที่ดินไม่บำรุงรักษาสาธารณูปโภคก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของบ้านและผู้พักอาศัยในหมู่บ้านดังกล่าวตามสำเนาหนังสือร้องเรียน จากการตรวจสอบพบว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดขวัญนครก่อสร้างได้รับอนุญาตให้จัดสรรที่ดิน เนื้อที่ประมาณ 43 ไร่ โดยจัดให้มีการบริการสาธารณะคือโรงเรียนอนุบาล 2 แห่ง สนามเด็กเล่น 2 แห่ง และบ่อบำบัดน้ำเสีย 2 แห่ง ตามสำเนาโครงการและวิธีการจัดสรรที่ดิน ต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัดขวัญนครก่อสร้างประสบปัญหาจึงขายกิจการบางส่วนให้แก่บริษัทธนทวีวิวัฒน์ จำกัด ดำเนินการก่อสร้างต่อและเปลี่ยนชื่อจากโครงการบ้านอินทรารมย์เป็นหมู่บ้านกรุงสยาม ในการขายกิจการได้ตกลงโอนขายที่ดินโฉนดเลขที่ 131542 ที่กำหนดเป็นพื้นที่โรงเรียนอนุบาลและที่ดินโฉนดเลขที่ 131554 และ 131566 ที่กำหนดเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียให้แก่บริษัทธนทวีวิวัฒน์ จำกัด ด้วย เจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาบางเขน ออกไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 131542 มีวัชพืชขึ้นรก ที่ดินโฉนดเลขที่ 131554 มีบ้านพักอาศัยตึกชั้นเดียวปลูกอยู่และที่ดินโฉนดเลขที่ 131566 มีสภาพเป็นสนามบาสเกตบอลตามสำเนาเรื่องปัญหากรรมสิทธิ์สาธารณูปโภค คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้ซื้อที่ดินจัดสรรกรุงเทพมหานครได้มีมติให้บริษัทธนทวีวิวัฒน์ จำกัด ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 131542 ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนอนุบาล หากไม่สามารถจัดตั้งโรงเรียนอนุบาลก็ให้กันที่ไว้เป็นโรงเรียนอนุบาล สนามเด็กเล่น หรือสนามกีฬาให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง และให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและสนามบาสเกตบอลออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 131554 และ 131566 และจัดทำบ่อบำบัดน้ำเสียให้สามารถบำบัดน้ำเสียได้ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งตามสำเนารายงานการประชุมของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้ซื้อที่ดินจัดสรรกรุงเทพมหานครและสำเนามติคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้ซื้อที่ดินจัดสรรกรุงเทพมหานคร ผู้ร้องไม่อาจแจ้งมติดังกล่าวได้เนื่องจากนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครขีดชื่อบริษัทธนทวีวิวัฒน์ จำกัด เป็นบริษัทร้างแล้ว
ปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า ผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1246 (6) (เดิม) บัญญัติว่า “ถ้าบริษัทหรือผู้ถือหุ้นหรือเจ้าหนี้ใด ๆ ของบริษัทรู้สึกว่าต้องเสียหายมิเป็นธรรมเพราะการที่บริษัทถูกขีดชื่อจากทะเบียนนั้นไซร้ เมื่อบริษัทหรือผู้ถือหุ้นหรือเจ้าหนี้ยื่นคำร้องต่อศาล และศาลพิจารณาได้ความเป็นที่พอแก่ใจว่าขณะที่ขีดชื่อบริษัทจากทะเบียนนั้นบริษัทยังทำการค้าขายหรือยังประกอบการงานอยู่ก็ดี หรือมิฉะนั้นเห็นเป็นการยุติธรรมในการที่จะให้บริษัทนั้นได้กลับคืนขึ้นทะเบียนก็ดี ท่านว่าศาลจะสั่งให้กลับจดชื่อบริษัทคืนเข้าสู่ทะเบียนก็ได้ …” เมื่อปรากฏเหตุตามคำร้องว่ามีการนำที่ดินที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตให้จัดสรรที่ดินว่าให้ใช้เพื่อสร้างโรงเรียนอนุบาลและบ่อบำบัดน้ำเสีย แต่บริษัทธนทวีวิวัฒน์ จำกัด ผู้รับโอนที่ดินดังกล่าวไม่ดำเนินการ ทั้งนำที่ดินไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น ผู้ร้องซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดินในการที่จะบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดินและปรากฏว่าในหมู่บ้านดังกล่าวยังมิได้มีการดำเนินการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ผู้ร้องในฐานะหน่วยงานของรัฐจึงมีสิทธิเรียกร้องให้บริษัทธนทวีวิวัฒน์ จำกัด ปฏิบัติหน้าที่ตามใบอนุญาตให้จัดสรรที่ดินเพื่อประโยชน์สาธารณะ ผู้ร้องจึงมีสถานะเสมือนหนึ่งเป็นเจ้าหนี้มีอำนาจยื่นคำร้องตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวข้างต้นได้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้องโดยเห็นว่าผู้ร้องมิใช่เจ้าหนี้นั้นไม่ต้องด้วยความเห็นศาลฎีกา อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้นและเพื่อเป็นการยุติธรรมให้จดชื่อบริษัทธนทวีวิวัฒน์ จำกัด กลับคืนเข้าสู่ทะเบียนเพื่อที่ผู้ร้องจะได้ดำเนินกระบวนต่าง ๆ และบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดินและให้บริษัทดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
พิพากษากลับ ให้นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครจดชื่อบริษัทธนทวีวิวัฒน์ จำกัด กลับคืนเข้าสู่ทะเบียน ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ