แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
แม้ทะเบียนรถจักรยานยนต์จะมิใช่เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์และเป็นเพียงหลักฐานที่กำหนดขึ้นด้วยระเบียบพิธีการเพื่อสะดวกแก่การควบคุมรถ แต่ยังเป็นเอกสารที่มีรายการระบุชื่อผู้เป็นเจ้าของรถและมีรายการเปลี่ยนแปลงการโอนทางทะเบียนอันเป็นพยานหลักฐานแสดงว่าผู้ใดเป็นเจ้าของอย่างหนึ่ง เมื่อคู่มือทะเบียนการเสียภาษีรถมีชื่อบริษัท ฮ. เป็นเจ้าของและผู้ร้องไม่ได้นำผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท ฮ. มานำสืบถึงการขายรถจักรยานยนต์ของกลางให้แก่ผู้ร้อง ตลอดทั้งเหตุแห่งการที่ไม่มีการโอนทางทะเบียนจึงฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลาง.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 138, 289, 339, 340 ตรี กับขอให้ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลางและมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดดังกล่าว ขอให้สั่งคืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านและแก้ไขคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ได้เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลาง และผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสอง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลางและผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยพิพากษากลับ ให้คืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘คดีมีปัญหาวินิจฉัยในชั้นนี้ตามฎีกาของโจทก์แต่เพียงว่ารถจักรยานยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้องหรือไม่ ผู้ร้องอ้างตนเองเป็นพยานว่า ผู้ร้องได้ซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางมาจากบริษัทไฮเอชเครดิตลิสซิ่ง จำกัด ตามเอกสารหมาย ร.2 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2527 แล้วต่อมาวันที่ 7พฤศจิกายน 2529 ผู้ร้องได้ให้นายสมหวัง แสงทองฟ้า พี่ชายของจำเลยที่ 1 เช่าซื้อรถคันดังกล่าวไป โดยมีนายสวัสดิ์ ไข่บางยาง เป็นผู้ค้ำประกัน ตามสัญญาเช่าซื้อและสัญญาค้ำประกัน เอกสารหมาย ร.3,ร.4 แม้ผู้ร้องจะมีนายสมหวังกับนายสวัสดิ์มาเป็นพยานเบิกความสนับสนุนก็ตาม แต่ปรากฎว่า เอกสารคู่มือการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ของกลาง ตามเอกสารหมาย ร.6 ผู้มีชื่อเป็นเจ้าของรถคือ บริษัทไฮเอชเครดิตลิสซิ่ง จำกัด รวมทั้งรายการเสียภาษีรถประจำปีก็ปรากฎว่า บริษัทผู้มีชื่อเป็นเจ้าของเป็นผู้เสียภาษีเรื่องมาตั้งแต่ประจำปี พ.ศ. 2526 จนถึงภาษีประจำปี พ.ศ. 2530ดังนั้น ตามรายการในคู่มือการจดทะเบียนรถดังกล่าว แสดงว่าการเป็นเจ้าของรถของบริษัทไฮเอชเครดิตลิสซิ่ง จำกัด หาได้มีการเปลี่ยนมือไปยังบุคคลอื่นไม่ เฉพาะอย่างยิ่งหากรถคันดังกล่าวตกมาเป็นของผู้ร้องจริง ก็น่าจะมีการโอนใส่ชื่อในทะเบียนเป็นของผู้ร้องนานแล้ว คงไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยนับแต่วันที่ผู้ร้องอ้างว่าได้ซื้อรถคันดังกล่าวจนถึงวันที่รถถูกยึดเป็นเวลาถึง 3 ปีเศษ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางคู่มือทะเบียนรถแต่อย่างใด จริงอยู่ แม้ทะเบียนรถจักรยานยนต์จะมิใช่เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ และเป็นเพียงหลักฐานที่กำหนดขึ้นด้วยระเบียบพิธีการเพื่อสะดวกแก่การควบคุมรถก็ตาม แต่ยังเป็นเอกสารที่มีรายการระบุชื่อผู้เป็นเจ้าของรถและมีรายการเปลี่ยนแปลงการโอนทางทะเบียนอันเป็นพยานหลักฐานแสดงว่าผู้ใดเป็นเจ้าของอย่างหนึ่ง เมื่อคู่มือทะเบียนการเสียภาษีรถคันดังกล่าวมีชื่อบริษัทไฮเอชเครดิตลิสซิ่ง จำกัด เป็นเจ้าของ และผู้ร้องก็ไม่ได้นำผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทไฮเอชเครดิตลิสซิ่ง จำกัด มานำสืบถึงการขายรถจักรยานยนต์ของกลางให้แก่ผู้ร้อง ตลอดทั้งเหตุแห่งการที่ไม่มีการโอนทางทะเบียนดังนั้น ข้ออ้างของผู้ร้องที่ว่าเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลางจึงไม่น่าเชื่อ คดีฟังไม่ได้ว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลาง…’
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง.