คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์หรือทนายโจทก์ทวงถามค่าวัสดุก่อสร้างที่จำเลยค้างชำระ และ ล. ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลงานก่อสร้างแทนจำเลยตอบทำนองว่า แล้วแต่จำเลยผู้เป็นลูกหนี้นั้นยังถือไม่ได้ว่า ล. ทำการอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัย ตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องนั้นแทนจำเลย อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงและการที่ทนายโจทก์มีหนังสือทวงหนี้ถึงจำเลย 2 ครั้ง จำเลยมิได้ปฏิเสธ จะถือว่าจำเลยยอมรับสภาพหนี้แล้วไม่ได้ดุจกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการ จำเลยที่ 1 รับเหมาก่อสร้างอาคารโรงเรียนและสุสาน จำเลยที่ 2 ได้ซื้อเครื่องอุปกรณ์การก่อสร้างจากโจทก์ไปหลายคราว และค้างชำระเงิน 93,330 บาท โจทก์ทวงถาม จำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์นำคดีมาฟ้องเมื่อเกินกำหนด 2 ปีแล้ว นับตั้งแต่วันที่จำเลยรับสินค้าจากโจทก์และชำระค่าสินค้าครั้งสุดท้าย คดีโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า นับแต่วันซื้อขายหรือวันผ่อนชำระเงินค่าสินค้าครั้งสุดท้ายจนถึงวันฟ้องล่วงเลยกำหนดเวลา 2 ปีแล้ว แต่ฟังได้ว่าจำเลยรับสภาพหนี้ อายุความย่อมสะดุดหยุดลง คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยมิได้รับสภาพหนี้ คดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยมิได้รับสภาพหนี้ คดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่โจทก์หรือทนายโจทก์ทวงถามค่าวัสดุที่จำเลยค้างชำระ นายหลากผู้ควบคุมดูแลงานก่อสร้างแทนจำเลยตอบทำนองว่าแล้วแต่จำเลยผู้เป็นลูกหนี้ เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่านายหลากทำการอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องนั้นแทนจำเลย และการที่ทนายโจทก์มีหนังสือทวงหนี้ถึงจำเลย 2 ครั้งจำเลยมิได้ปฏิเสธ จะถือว่าจำเลยยอมรับสภาพหนี้แล้วอันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามมาตรา 172 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย

พิพากษายืน

Share