คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ซื้อที่นามือเปล่ามาครอบครอง 7-8 ปีแล้ว ภายหลังขายคืนให้เจ้าของเดิม ดังนี้ ถือว่าสละสิทธิในที่นานั้นตาม ป.พ.พ.มาตรา 1377 แม้การขายคืนจะทำไม่ถูกแบบ ก็ฟ้องเรียกคืนจากเจ้าของเดิมไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยที่ ๑ ได้ขายนาพิพาทให้แก่โจทก์ ๗-๘ ปีแล้ว บัดนี้จำเลยที่ ๑-๒-๓ ได้สมคบกันขู่เข็ญ และหลอกลวงให้โจทก์ยอมให้จำเลยที่ ๑ ไถ่นารายพิพาท โจทก์มีความกลัว และหลงเชื่อจึงได้ออกใบรับเงินฉบับหนึ่งโดยจำเลยมอบเงินให้โจทก์ ๓๐๐ บาท แล้วจำเลยฉีกสัญญาซื้อขายนาพิพาทเสีย จึงขอให้ศาลสั่งทำลายใบรับเงินแสดงการยอมที่ทำขึ้นโดยขู่เข็ญและหลอกลวง และให้จำเลยที่ ๑ รับเงิน ๓๐๐ บาทคืนไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จะฟังว่าจำเลยที่ ๑ ได้ขายนาพิพาทให้แก่นางหลวงแล้วก็ดี แต่คดีได้ความต่อมาว่า นางหลวงได้ยอมทำสัญญาไถ่ (หรือขายคืน) แก่จำเลยที่ ๑ โดยรับเงิน ๓๐๐ บาท ถือได้ว่า นางหลวง ยอมสละสิทธิในที่นานั้นตาม ป.พ.พ.มาตรา ๑๓๗๗ และทางพิจารณาไม่พอฟังว่าในการทำสัญญานี้ จำเลยที่ ๑ ได้หลอกลวงนางหลวงแต่อย่างใด นางหลวงจึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกคืนได้ จึงพิพากษายืน

Share