คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8489/2551

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำเบิกความของพยานในคดีอื่นเป็นพยานเอกสาร หากคู่ความประสงค์จะอ้างเป็นพยานหลักฐานแห่งตนจะต้องยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลชั้นต้นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 88

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า นางแก่น ยกกรรมสิทธิ์ที่ดินตาม โฉนดเลขที่ 3326 เฉพาะส่วนทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ เนื้อที่ 3 ไร่ 43 ตารางวา ให้แก่นายพริ้มมาประมาณ 40 ปี โดยมิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ นายพริ้มเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวตลอดมาและเมื่อประมาณ 10 ปีมานี้ ก่อนนายพริ้มถึงแก่ความตายได้ทำพินัยกรรมให้ที่ดินนั้นแก่ผู้ร้อง ผู้ร้องเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวต่อมาโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ โดยไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้าน จึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง ขอให้มีคำสั่งว่าที่ดินตามโฉนดเลขที่ 3326 ตำบลบ้านไร่ (ชาวเหนือ) อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เนื้อที่ 3 ไร่ 43 ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยการครอบครอง
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ภายหลังนายพริ้มถึงแก่ความตาย นางพิณ ยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวทั้งหมด แต่ศาลมีคำสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินให้นางพิณเพียง 3 ไร่ 43 ตารางวา และนางพิณแบ่งแยกที่ดินดังกล่าวออกจากโฉนดที่ดินเลขที่ 3326 แล้ว ที่ดินส่วนที่เหลือจึงเป็นทรัพย์มรดกของนางแก่น และตกทอดแก่นางพร (ที่ถูก พอน) มารดาผู้คัดค้านทั้งหมด พินัยกรรมที่ผู้ร้องกล่าวอ้างเป็นพินัยกรรมปลอมทำขึ้นภายหลังนายพริ้มถึงแก่ความตายแล้ว ขอให้ยกคำร้องขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 3326 ตำบลบ้านไร่ (ชาวเหนือ) อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เนื้อที่ 3 ไร่ 43 ตารางวา ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตามแผนที่วิวาทเอกสารหมาย ร.8 (ที่ถูก ภายในกรอบสีเขียวตามแผนที่วิวาทเอกสารหมาย ร.8) เป็นกรรมสิทธิ์ของนายมณู ผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 3326 ตำบลบ้านไร่ (ชาวเหนือ) อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เดิมมีเนื้อที่ 12 ไร่ 1 งาน 72 ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์ของนางแก่น นางแก่นถึงแก่ความตายไปกว่า 40 ปี ก่อนตายได้ยกที่ดินเฉพาะส่วนทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ เนื้อที่ 6 ไร่ 86 ตารางวา ให้นายพริ้มและนางพิณ โดยมิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ นายพริ้มและนางพิณเข้าครอบครองที่ดินเฉพาะส่วนดังกล่าวด้วยความสงบ เปิดเผย และด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ โดยเข้าทำนา และภายหลังให้นายเต๋า บิดาของผู้ร้องเช่าทำนาต่อ ก่อนนายพริ้มถึงแก่ความตายได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินดังกล่าวให้แก่ผู้ร้อง ภายหลังนายพริ้มตาย นางพิณยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว ศาลมีคำสั่งให้ที่ดินเป็นของนางพิณเนื้อที่ 3 ไร่ 43 ตารางวา
พิเคราะห์แล้ว เห็นควรวินิจฉัยก่อนว่า การที่ผู้คัดค้านอ้างส่งคำเบิกความของพยานในคดีอื่นเป็นพยานหลักฐานของตนในชั้นอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า คำเบิกความของพยานในคดีอื่นเป็นพยานเอกสาร หากผู้คัดค้านประสงค์จะอ้างเป็นพยานหลักฐานแห่งตนจะต้องยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลชั้นต้นก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน หากประสงค์จะยื่นบัญชีระบุพยานพิ่มเติม ให้ยื่นคำแถลงขอระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาลชั้นต้นภายในสิบห้าวันนับแต่วันสืบพยาน เมื่อสิ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว หากมีเหตุอันสมควรแสดงได้ว่า ตนไม่สามารถทราบได้ว่าต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อประโยชน์ของตน หรือไม่ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่หรือมีเหตุอันสมควรอื่นใด แสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลว่ามีเหตุอันสมควรที่ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาดังกล่าวได้จะต้องยื่นคำร้องขออนุญาตอ้างพยานหลักฐานไม่ว่าเวลาใดๆ ก่อนพิพากษาคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 เมื่อคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาไปแล้วและผู้คัดค้านแนบเอกสารมาท้ายอุทธรณ์โดยไม่มีเหตุอันสมควรจึงหมดเวลาที่จะเพิ่มเติมพยานหลักฐานได้อีก ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ไม่รับฟังเอกสารที่ผู้คัดค้านยื่นในชั้นอุทธรณ์จึงชอบแล้ว ฎีกาข้อนี้ของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น
ที่ผู้คัดค้านฎีกาว่า ผู้ร้องยังครอบครองที่ดินไม่ถึง 10 ปี นั้นเป็นความคิดเห็นของผู้คัดค้าน ส่วนผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมของนายพริ้มหรือไม่ไม่ใช่ประเด็นแห่งคดี ข้อความในฎีกาข้ออื่นไม่ได้โต้แย้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 จึงไม่วินิจฉัยให้”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็ยพับ

Share