แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ไร้ความสามารถและบิดามารดา ต้องรับผิดในผลที่เด็กกระทำละเมิด เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น
บิดาเก็บปืนลูกซองไว้บนหลังตู้เซฟ บุตรอายุ 9 ขวบหยิบไม่ถึง ต่อมาปรากฏว่าบุตรเอาปืนนั้นไป บิดาจึงสั่งให้ผู้มีชื่อเอาปืนจากบุตรไปเก็บไว้ พอตอนเย็นบุตรก็มาพูดหลอกว่าบิดาให้มาเอาปืนไปอีก ได้ปืนแล้วไปยิงนก จนทำปืนลั่นถูกเด็กอื่นตาย ดังนี้ วินิจฉัยว่าการที่บิดาสั่งเพียงให้เก็บปืนไว้เฉยๆ มิได้กำชับว่าอย่ามอบให้บุตรเอาไปนั้น ยังเรียกไม่ได้ว่า บิดาได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลดังที่กฎหมายบังคับไว้ บิดาจึงต้องร่วมรับผิดในผลของการละเมิดนั้นด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบิดาจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของผู้ครอบครองอาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงจำเลยที่ 1 ได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 นำปืนกระบอกนี้ไปใช้โดยทำผิดกฎหมาย และยิงเด็กชายวันเดิมบุตรโจทก์ถึงแก่ความตาย และจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบิดาผู้ปกครองจำเลยที่ 2 ผู้เยาว์ต้องรับผิดร่วมด้วยในความเสียหายที่โจทก์ควรได้รับเป็นค่าทดแทนรวมเงิน 7,000 บาท โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้จากจำเลย
จำเลยปฏิเสธความรับผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้ง 3 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 4,628 บาท ฯลฯ
นายไพรัชจำเลยที่ 1 ผู้เดียวอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นายไพรัชจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้วเห็นว่า คดีต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 429 ซึ่งว่า ผู้ไร้ความสามารถและบิดามารดาต้องรับผิดในผลที่เด็กทำละเมิด เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแล ซึ่งทำอยู่นั้น คดีนี้แม้นายไพรัชจำเลยจะนำสืบว่า ได้เก็บปืนไว้บนหลังตู้เซฟ ด.ช.เดือนอายุ 9 ปีหยิบไม่ถึงก็ดี แต่ก็ปรากฏในตอนกลางวัน ด.ช.เดือนพาปืน นายกิมบู๊มาบอกนายไพรัช ๆ สั่งให้นายกิมบู๊เก็บปืนไว้ ต่อมา ด.ช.เดือนมาพูดหลอกนายกิมบู๊ว่าบิดาให้มาเอาปืน แล้วจึงเอาปืนไปใช้ยิงนก จนเกิดเหตุทำปืนลั่นถูก ด.ช.วันเดิมตาย ศาลฎีกาเห็นว่า การที่นายไพรัชสั่งให้นายกิมบู๊ให้เก็บปืนไว้เฉย ๆ มิได้กำชับว่าอย่ามอบให้ด.ช.เดือนจำเลยเอาไปนั้น ยังเรียกไม่ได้ว่า ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลดังกฎหมายบังคับไว้
จึงพิพากษายืน