คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีภริยาแยกกันอยู่ประมาณ 8 ปี เนื่องจากเกิดทะเลาะกันต่างไม่พอใจอยู่รวมกัน ภริยาจึงแยกไปอยู่ที่อื่น อันเป็นความพอใจของสามี ส่วนสามีคงอยู่ที่บ้านเรือนเดิม ตลอดเวลาที่แยกกันอยู่สามีไม่ได้ให้ความอุปการะส่งเสียเงินทองเลี้ยงดูภริยาอย่างใดเลย ดังนี้ ถือได้ว่าสามีได้สละละทิ้งภริยาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 39(2) แล้ว ภริยาจึงย่อมทำการผูกพันส่วนของตนในสินบริคณห์ได้โดยมิพักต้องได้รับอนุญาตจากสามี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาโจทก์เอาที่ดินพิพาทอันเป็นสินบริคนห์ของโจทก์ไปขายให้จำเลยที่ 2 โดยมิได้รับความยินยอมของโจทก์ โจทก์จึงบอกล้างนิติกรรมนั้นแล้ว จำเลยก็เพิกเฉยเสีย จึงให้ศาลพิพากษาทำลายนิติกรรมการขายดังกล่าว

จำเลยที่ 1 ต่อสู้ว่ามีสิทธิขายได้

จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่า ซื้อไว้โดยสุจริต

ศาลแพ่งพิจารณาพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์สินบริคนห์ แม้โจทก์และจำเลยจะแยกกันอยู่ จำเลยที่ 1 ก็ไม่มีอำนาจไปทำนิติกรรมขายได้ตามลำพังจึงพิพากษาว่านิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยเป็นโมฆะ ให้เพิกถอนทำลายเสีย ฯลฯ

จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 แยกกันอยู่ประมาณ 8 ปีแล้ว เนื่องจากเกิดทะเลาะกัน ต่างไม่พอใจอยู่ร่วมกันจำเลยที่ 1 จึงแยกไปอยู่ที่อื่นอันเป็นความพอใจของโจทก์ ส่วนโจทก์คงอยู่ที่บ้านเรือนเดิม ก่อนจำเลยที่ 1 ขายที่รายพิพาทให้จำเลยที่ 2 ได้เคยขายที่ดินแห่งอื่นไป โจทก์ทราบก็ยินยอมไม่คัดค้านอะไรเป็นแต่ขออย่าให้จำเลยที่ 1 กลับมาอยู่บ้านโจทก์อีกเท่านั้นตลอดเวลา 8 ปีที่จำเลยต้องแยกไปอยู่ที่อื่นนี้ โจทก์ไม่ได้ให้ความอุปการะส่งเสียเงินทองเลี้ยงดูจำเลยที่ 1 อย่างใดเลย จำเลยที่ 1 จึงขายที่ดิน 2 โฉนดรายพิพาทให้จำเลยที่ 2 ไปโดยมิได้รับความยินยอมของโจทก์ ตามพฤติการณ์ที่ได้ความมาดังนี้ เป็นอันฟังได้ว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างทอดทิ้งซึ่งกันและกัน โดยโจทก์มิได้ให้ความอุปการะเลี้ยงดูจำเลยที่ 1 และไม่ต้องการให้จำเลยที่ 1 กลับมาอยู่ร่วมบ้านกับโจทก์ด้วย เห็นว่ารูปคดีมีเหตุผลเพียงพอถือได้ว่าสามีได้สละละทิ้งภริยาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 39(2) หญิงมีสามีจึงย่อมทำการผูกพันส่วนของตนในสินบริคนห์ได้ โดยมิต้องได้รับอนุญาตจากสามี

จึงพิพากษาแก้ให้เพิกถอนทำลายนิติกรรมการซื้อขายระหว่างจำเลยได้เฉพาะส่วนสินบริคนห์ในส่วนของโจทก์เท่านั้น ฯลฯ

Share