คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่ห้ามฎีกา ผู้พิพากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นบันทึกมาในฎีกาว่า ‘ศาลชั้นต้นลงโทษแต่ให้รอการลงโทษไว้ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกทันที จึงเป็นเรื่องดุลพินิจของศาลศาลชั้นต้นเห็นด้วยความเคารพและสุจริตใจว่า ชอบที่ศาลฎีกาจะได้ชี้ขาดเพื่อเป็นบรรทัดฐานทั้งศาลชั้นต้นก็เคยมีเรื่องศาลชั้นต้นให้รอการลงโทษ และศาลอุทธรณ์ลงโทษทันทีแต่ศาลฎีกาให้รอไว้ดังที่ผู้ฎีกาได้อ้างมานั้น จึงเห็นควรให้รับฎีกาไว้ เพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาต่อไป’ ดังนี้ มิได้แสดงว่าข้อความที่ตัดสินมาเป็นปัญหาสำคัญมิได้ แสดงว่า ผู้พิพากษาผู้พิจารณา อนุญาตให้ฎีกาศาลฎีกาจึงจะรับฎีกาไว้พิจารณา ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช้ยาฉีด เข้าไปในร่างกายทารกอายุ 6 เดือนเป็นเหตุให้ทารกนั้นตาย ทั้งนี้เป็นการฆ่าคนตายโดยประมาท ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 252

ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 ปี ตามมาตรา 251 ลดกึ่งหนึ่งตามมาตรา 59 คงจำคุก 6 เดือนให้รอการลงอาญาไว้

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ให้รอการลงอาญา ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 6 เดือน

จำเลยฎีกา

คดีนี้ผู้พิพากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นบรรทึกมาในฎีกาจำเลยดังนี้ “ศาลชั้นต้นลงโทษแต่ให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกทันที จึงเป็นเรื่องดุลยพินิจของศาล ศาลชั้นต้นเห็นด้วยความเคารพและสุจริตใจว่า ชอบที่ศาลฎีกาจะได้ชี้ขาดเพื่อเป็นบรรทัดฐาน ทั้งศาลชั้นต้นก็เคยมีเรื่องศาลชั้นต้นให้รอการลงโทษและศาลอุทธรณ์ลงทันที แต่ศาลฎีกาให้รอไว้ดังที่ผู้ฎีกาได้อ้างมานั้นจึงเห็นควรให้รับฎีกาไว้เพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาต่อไป”

ศาลฎีกาเห็นว่า บรรทึกข้างต้นนี้มิได้แสดงว่า ข้อความที่ตัดสินมาเป็นปัญหาสำคัญ มิได้แสดงว่า ผู้พิพากษาผู้พิจารณาอนุญาตให้ฎีกา จึงจะรับฎีกาจำเลยไว้พิจารณามิได้

จึงสั่งไม่รับฎีกาจำเลย ให้ยกเสีย

Share