คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8453/2550

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2547 หากโจทก์เห็นว่าคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางส่วนใดไม่ถูกต้องอย่างไร ชอบที่โจทก์จะต้องยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาภายในกำหนดหนึ่งเดือน นับแต่วันที่ศาลภาษีอากรกลางอ่านคำพิพากษา ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 24 เมื่อคดีนี้ศาลภาษีอากรกลางได้พิพากษาในวันที่ 27 ธันวาคม 2547 วันเดียวกับที่โจทก์ยื่นฟ้อง ซึ่งคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมีข้อความระบุว่าโจทก์รอฟังอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว จึงต้องถือว่าโจทก์ทราบคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางในวันที่ 27 ธันวาคม 2547 โจทก์ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2548 จึงเกินกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์แล้ว ที่ศาลภาษีอากรกลางรับอุทธรณ์ของโจทก์มาจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรไม่รับวินิจฉัยให้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2547 โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลภาษีอากรกลางว่า โจทก์ได้รับแจ้งการประเมินภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม 2537 เดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ 2538 เดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม 2538 เดือนสิงหาคมและเดือนตุลาคม 2538 เดือนตุลาคม 2539 และเดือนตุลาคม 2540 เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,925,039 บาท โจทก์ไม่เห็นพ้องด้วย จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ คณะกรรมการอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นชอบกับการประเมินของเจ้าพนักงานประเมิน โจทก์ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2547 เนื่องจากโจทก์ต้องใช้เวลารวบรวมเอกสารจำนวนมาก จึงขออนุญาตให้โจทก์ขยายเวลายื่นอุทธรณ์ออกไปอีก 30 วัน
ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ยื่นอุทธรณ์ได้จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2547
วันที่ 27 ธันวาคม 2547 โจทก์ได้ยื่นฟ้องกรมสรรพากรเป็นจำเลยต่อศาลภาษีอากรกลาง ศาลภาษีอากรกลางได้พิจารณาแล้วเห็นว่าศาลอนุญาตให้โจทก์ขยายระยะเวลายื่นคำฟ้องได้จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2547 แต่โจทก์มายื่นคำฟ้องวันที่ 27 ธันวาคม 2547 เกินกำหนด คดีโจทก์จึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามมาตรา 30 (2) แห่งประมวลรัษฎากร โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง ค่าขึ้นศาลให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2547 หากโจทก์เห็นว่าคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางส่วนใดไม่ถูกต้องอย่างไร ชอบที่โจทก์จะต้องยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาภายในกำหนดหนึ่งเดือน นับแต่วันที่ศาลภาษีอากรกลางอ่านคำพิพากษา ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 24 เมื่อคดีนี้ศาลภาษีอากรกลางได้พิพากษาในวันที่ 27 ธันวาคม 2547 วันเดียวกับที่โจทก์ยื่นฟ้อง ซึ่งคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมีข้อความระบุว่าโจทก์รอฟังอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว จึงต้องถือว่าโจทก์ทราบคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางในวันที่ 27 ธันวาคม 2547 โจทก์ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2548 จึงเกินกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์แล้ว ที่ศาลภาษีอากรกลางรับอุทธรณ์ของโจทก์มาจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดแก่โจทก์ ส่วนค่าทนายความในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share