คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ก่อนผู้ให้ตาย ได้ยกที่ดินและบ้านเรือนให้ผู้รับเข้าครอบครองแล้ว แม้การยกให้จะมิได้จดทะเบียนก็ตาม ที่ดินรายนี้เป็นที่ดินมือเปล่า การที่ผู้ให้ยกให้ ถือได้ว่าเป็นการสละเจตนาครอบครองที่ดินและบ้านเรือน การครอบครองของผู้ให้ก็สิ้นลงและผู้รับซึ่งเป็นผู้รับโอนก็ได้ไปซึ่งการครอบครองนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยแบ่งมรดกให้โจทก์ จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ได้รับทรัพย์มรดกอย่างใดเลย
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลเรียกนางบุญธรรมเข้ามาเป็นจำเลยด้วย ศาลอนุญาต
นางบุญธรรมให้การว่า โจทก์ได้มอบทรัพย์มรดกของนายสอนให้นางบุญธรรมพร้อมด้วยนางปุก(ภรรยานายสอนและเป็นมารดาของโจทก์จำเลย นางปุกตายหลังนายสอนหนึ่งเดือน) และจำเลยกับญาติผู้ใหญ่ตามคำสั่งของนางสอนที่สังไว้ก่อนตาย นางบุญธรรมได้รับมอบและครอบครองมาปีกว่าแล้ว
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานและเรียกนางบุญธรรมว่าผู้ร้องสอด แล้วสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลย คงให้สืบพยานเฉพาะโจทก์กับผู้ร้องสอด แล้วพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา มีประเด็นขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย
ปัญหาข้อกฎหมายนี้สืบเนื่องมาจากข้อเท็จจริงซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังมาว่า ก่อนนายสอนตายได้ยกที่นาและบ้านเรือนรวมทั้งทรัพย์ตามฟ้องให้แก่ผู้ร้องสอด ผู้ร้องสอดได้ทำนาที่รับยกให้นี้ร่วมกันมากับนายสอนและอยู่บ้านเรือนที่ได้รับยกให้นี้ร่วมกับนายสอน ยังได้ความต่อไปว่าเมื่อนายสอนตายแล้ว โจทก์จำเลยซึ่งเป็นทายาทก็ได้ตกลงยกทรัพย์พิพาทให้แก่ผู้ร้องสอด ผู้ร้องสอดได้เข้าทำนาและปกครองบ้านเรือนทั้งทรัพย์พิพาทซึ่งอยู่ในบ้านเรือนตลอดมาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว สำหรับสังหาริมทรัพย์นั้น ผู้ร้องสอดผู้รับก็ย่อมมีกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย ส่วนที่ดินบ้านเรือนอันเป็นอสังหาริมทรัพย์นั้น เมื่อฟังข้อเท็จจริงว่า นายสอนได้ยกที่ดินบ้านเรือนให้แก่ผู้ร้องสอดเข้าครอบครองแล้ว แม้การยกให้จะมิได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม ที่ดินรายนี้เป็นที่ดินมือเปล่าการที่เจ้าของยกให้แก่ผู้ร้องสอดนั้น ถือได้ว่าเป็นการสละเจตนาครอบครองที่ดินและบ้านเรือนให้แก่ผู้ร้องสอด การครอบครองของนายสอนก็สิ้นลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๗๗ และผู้ร้องสอดซึ่งเป็นผู้รับโอนก็ได้ไปซึ่งการครอบครองนั้นตามมาตรา ๑๓๗๘ และตามนัยฎีกาที่ ๑๑๐๑/๒๕๐๔
พิพากษายืน

Share