แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองยืนฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลา การบังคับ ศาลชั้นต้นสั่งในฎีกาว่าพิเคราะห์แล้วฎีกาของจำเลยทั้งสอง เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่แก้ไขใหม่ จึงไม่รับฎีกาของจำเลย ทั้งสอง และสั่งในคำร้องขอทุเลาการบังคับว่า ศาลไม่รับฎีกา จึงไม่ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองเห็นว่า ในกรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีเอกสาร มาแสดง เมื่อได้นำเอกสารมาแสดงแล้ว ปรากฎว่าโจทก์เป็นผู้เขียนโดย ลงนามในช่องผู้เขียน โจทก์จะนำพยานบุคคลเข้าสืบว่าจำเลยทั้งสอง ได้เขียนข้อความบางส่วนในสัญญาและศาลจะรับฟังพยานบุคคล ดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ข) ได้หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาและ คำร้องขอทุเลาการบังคับของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 65,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 17 เมษายน 2531 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาและคำร้องขอทุเลาการบังคับดังกล่าว(อันดับ 54,56)
จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นสั่งว่า การยื่นคำร้อง อุทธรณ์คำสั่งฯนี้ ต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและ นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันไว้ต่อศาลด้วย จึงให้จำเลย ทั้งสองดำเนินการตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ก่อน ทั้งนี้ภายใน 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งคำร้อง(อันดับ 57) ต่อมาจำเลยทั้งสองยื่นคำแถลงมีใจความว่า กรณีตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้น ไม่รับอุทธรณ์ แต่กรณีของจำเลยทั้งสองนี้เป็นกรณีคำร้องอุทธรณ์ คำสั่งที่ศาลชั้นต้นไม่ยอมรับฎีกา ในชั้นฎีกา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 252 บัญญัติไว้เป็นพิเศษ โดยให้ศาลชั้นต้นส่งคำร้องเช่นว่านั้นไป ศาลฎีกาพิจารณาสั่ง ศาลชั้นต้นไม่มีหน้าที่จะตรวจสั่งรับหรือไม่รับคำร้องนั้น ขอให้ส่ง คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไปศาลฎีกาเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป ศาลชั้นต้นสั่งว่า รวมสำนวนไว้และเมื่อครบกำหนดตามที่ได้สั่ง ไว้ในคำร้องของ จำเลยทั้งสองฉบับลงวันที่ 23 มกราคม 2535 แล้วจำเลยทั้งสองมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นให้รวบรวมถ้อย คำสำนวนส่ง ศาลฎีกา เพื่อพิจารณาสั่งต่อไป (อันดับ 58)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้จำเลยมีอำนาจยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ที่ไม่รับฎีกาต่อศาลชั้นต้นเพื่อให้ศาลฎีกาพิจารณาสั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 252 ได้รับตามแต่จำเลย จะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 โดย จะต้องยื่นคำร้องนั้นต่อศาลชั้นต้นและนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวง มาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษา หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด 15 วันนับแต่วันที่ศาลชั้นต้น ได้มีคำสั่งอีกด้วยคดีนี้ปรากฎว่าเมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาและ จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลฎีกา แต่ไม่ได้นำค่าฤชาธรรมเนียม ทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ ต่อศาลภายในกำหนด คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ