แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1693 บัญญัติว่า ผู้ทำพินัยกรรมจะเพิกถอนพินัยกรรมของตนในเวลาใดก็ได้นั้น หมายถึงว่าจะเพิกถอนเวลาใดก็ได้ตามใจชอบ การเพิกถอนทำอย่างไรนั้น มาตรา 1695 บัญญัติว่า อาจทำโดยทำลายหรือขีดฆ่าเสียด้วยความตั้งใจ “ทำลาย” หมายความว่า รื้อ ทำให้ทลาย ทำให้พัง ทำให้ฉิบหาย ทำให้หมดสิ้นไป การทำลายจึงเป็นการที่ต้องทำให้เกิดผลเช่นนั้น และการเพิกถอนมิใช่ให้ทำโดยเพียงแต่แสดงเจตนาด้วยถ้อยคำ หากจะต้องมีการกระทำ คือ “ทำลาย” หรือ “ขีดฆ่า” เป็นสำคัญ
พินัยกรรมีข้อกำหนดตั้งให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อไม่ปรากฏว่าข้อกำหนดนั้นไม่มีผลบังคับด้วยประการใด ๆ ถึงแม้โจทก์จะเป็นทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่เป็นกรณีมีเหตุสมควรที่โจทก์จะขอให้ตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดก
ย่อยาว
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตายซึ่งเป็นสามี
จำเลยกับพวกยื่นคำร้องคัดค้านว่า โจทก์กับเจ้ามรดกเลิกเป็นสามีภรรยากันตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๗๗ และเจ้ามรดกได้แต่งงานกับจำเลยและมีบุตรด้วยกัน คือ จำเลยอีก ๕ คนนี้เจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้จำเลยและตั้งให้จำเลยที่ ๑ เป็นผู้จัดการมรดก คดีขาดอายุความ ผู้ร้องไม่มีสิทธิรับมรดก
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า โจทก์กับเจ้ามรดกมิได้ขาดจากการเป็นสามีภรรยากัน พินัยกรรมของเจ้ามรดกสมบูรณ์และตั้งจำเลยที่ ๑ เป็นผู้จัดการมรดกไว้แล้ว ไม่มีเหตุผลจะตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกอีก
โจทก์จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๙๓ บัญญัติว่า ผู้ทำพินัยกรรมจะเพิกถอนพินัยกรรมของตนในเวลาใดก็ได้นั้น หมายถึงว่าจะเพิกถอนในเวลาใดก็ได้ตามใจชอบ การเพิกถอนจะทำอย่างไรนั้น มาตรา ๑๖๙๕ บัญญัติว่า อาจทำโดยการทำลายหรือขีดฆ่าเสียด้วยความตั้งใจ “ทำลาย” หมายความว่า รื้อ ทำให้ทลาย ทำให้พัง ทำให้ฉิบหาย ทำให้หมดสิ้นไป การทำลายจึงเป็นการที่ต้องทำให้เกิดผลเช่นนั้น และการเพิกถอนมิใช่ให้ทำโดยเพียงแต่แสดงเจตนาด้วยถ้อยคำ หากจะต้องมีการกระทำ คือ “ทำลาย” หรือ “ขีดฆ่า” เป็นสำคัญ การที่เจ้ามรดกแสดงเจตนาเพิกถอนพินัยกรรมเท่านั้น ถือว่ายังมิได้มีการกระทำคือ ทำลายหรือขีดฆ่า พินัยกรรมจึงยังคงมีอยู่มิได้ถูกเพิกถอน เมื่อปรากฏว่าพินัยกรรมข้อกำหนดให้จำเลยที่ ๑ เป็นผู้จัดการมรดก และไม่ปรากฏว่าข้อกำหนดนี้ไม่มีผลบังคับด้วยประการใด ๆ ถึงแม้โจทก์จะเป็นทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่เป็นกรณีมีเหตุสมควรที่โจทก์จะขอให้ตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดก
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์จำเลย