คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8375/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่โจทก์ฎีกาว่า พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตเวนคืนที่ดินของโจทก์ได้สิ้นอายุก่อนโจทก์นำคดีมาสู่ศาล โจทก์จึงไม่มีอำนาจนำมาเป็นข้ออ้างเพื่อเสนอศาลให้พิจารณา และการเวนคืนที่ดินโจทก์ ไม่มีการออกกฎหมายโดยเฉพาะเพื่อเวนคืน จึงเป็นการผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2535 แก้ไข พ.ศ.2538 นั้นเป็นการโต้แย้งการกระทำของโจทก์เอง มิได้โต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงไว้โดยชัดแจ้ง ไม่ชอบด้วยป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยกำหนดค่าทดแทนโดยอาศัยราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม พ.ศ.2531 ถึง พ.ศ.2534 เป็นเกณฑ์กำหนด ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 หากโจทก์เห็นว่าราคาซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาดมีราคาสูงกว่าที่จำเลยกำหนด การกำหนดค่าทดแทนให้โจทก์ไม่เป็นธรรม โจทก์ก็ต้องพิสูจน์ให้ศาลรับฟังได้เช่นนั้น เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบพิสูจน์ให้ได้ความดังกล่าว จึงไม่อาจกำหนดค่าทดแทนให้โจทก์ตามคำฟ้องได้
การกำหนดค่าทดแทนในการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ได้มีพ.ร.บ. ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 หมวด 2 กำหนดรายละเอียดของค่าทดแทนที่ผู้ถูกเวนคืนอสังหาริมทรัพย์พึงได้รับค่าทดแทนไว้แล้วค่าเสียหายทางจิตใจมิใช่ค่าทดแทนที่พระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดให้ผู้ถูกเวนคืนพึงได้รับ ศาลฎีกาจึงกำหนดค่าทดแทนที่เป็นค่าเสียหายทางจิตใจให้โจทก์ไม่ได้

Share